สำหรับอนาคตของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในฤดูกาลนี้ต้องบอกว่าไม่มีความแน่นอนแล้ว หลังจากที่มีการประกาศว่าเกมลูกหนังในเมืองผู้ดี จำเป็นต้องระงับโปรแกรมชั่วคราว โดยจะกลับมาโม่เกือกกันใหม่จนกระทั่งวันที่ 4 เมษายนเป็นอย่างน้อย
หลังจากการประชุมฉุกเฉินเมื่อเช้าวันศุกร์ที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา หลังจาก มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล และ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ดาวเตะ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ถูกตรวจพบว่าติดเชื่อไวรัสโคโรน่า สายพันธ์ใหม่ 2019 หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า "โควิด -19"
การตัดสินใจนี้เป็นมาตรการป้องกันเอาไว้ก่อน เพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสมรณะ ทำให้ทุกๆ แมตช์ในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีจะไม่มีการลงสนามในช่วงเดือนมี.ค.นี้ เช่นเดียวกับ ฟุตบอลลีกอังกฤษ ที่ดำเนินนโยบายเดียวกันด้วยการระงับโปรแกรมจนกระทั่งเดือนวันที่ 3 เม.ย.
งานนี้ทำเอาสาวก "เดอะ ค็อป" เริ่มหวั่นใจว่าจะมีการยกเลิกการแข่งขันในซีซั่นนี้หรือไม่ เพราะตอนนี้พวกเขาทำคะแนนทิ้งห่าง
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปไกลสุดกู่ถึง 25 แต้ม และต้องการชัยชนะเพียงแค่ 2 เกม จาก 9 แมตช์ที่เหลืออยู่ ก็จะผงาดคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีที่รอคอยมานานถึง 30 ปี
ในช่วงเวลานี้บรรดาแฟนบอล "หงส์แดง" คงรู้สึกมีอาการวิตกจริตเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว เนื่องจากมีหลายกระแสออกมากล่าวในเชิงที่ว่าพรีเมียร์ลีกจะทำการโมฆะทุกอย่างในซีซั่นนี้ นั่นหมายความว่าจะไม่มีทีมใดได้แชมป์ลีก ทั้งๆ ที่ ลิเวอร์พูล ทำแต้มทิ้งห่างขนาดนี้ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจในเชิงที่เลวร้ายที่สุดต่อสภาพจิตใจของแฟนบอล "เดอะ เร้ดส์" ทั่วโลก ยังไม่เกิดขึ้น ฉะนั้นจึงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะไปหวาดวิตกกับเรื่องดังกล่าว แต่ในเมื่อมีการระบุชัดเจนว่าระงับการแข่งขันชั่วคราวในช่วง 3 สัปดาห์นี้ แล้วหากกลับมาลงแข่งกันใหม่ ลิเวอร์พูล จะคว้าแชมป์ในเกมไหนละ ?
เมื่อมองจากโปรแกรมเดิมการหยุดการแข่งขันชั่วคราวจะทำให้ ลิเวอร์พูล พลาดปะทะ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน ในศึกเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ วันจันทร์ที่ 16 มี.ค.นี้ และ คริสตัล พาเลซ ในวันที่ 21 มี.ค.นี้ ขณะที่ "เรือใบสีฟ้า" ไม่ต้องแข่งกับ เบิร์นลี่ย์ วันที่ 14 มี.ค.
ฉะนั้นเมื่อถึงกำหนดกลับมาแข่งใหม่ เกมต่อไปที่
ลิเวอร์พูล จะลงแข่งนั้นก็คือการไปเยือน แมนฯ ซิตี้ ที่สนามเอติฮัด สเตเดี้ยม และถ้าหวกขุนพลของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ บุกไปชนะ นั่นหมายความว่า "หงส์แดง" จะเก็บได้ 85 คะแนน ทิ้งห่าง "เรือใบสีฟ้า" 28 แต้ม ซึ่งทีมของกุนซือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่มีทางทำคะแนนไล่ทัน ดังนั้น ลิเวอร์พูล จะผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ทันที
อย่างไรก็ตามถ้าหากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ดีขึ้นก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีการขยายเวลาระงับการแข่งขันออกนานกว่าวันที่ 4 เม.ย. หรืออาจจะมีการแข่งขันแต่ห้ามให้แฟนบอลเข้ามาชมเกมในสนาม ซึ่งทั้งหมดนี้ยังไม่มีความกระจ่างชัด
ดังนั้นไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นยังไง สิ่งที่ทุกๆ คนควรให้ความสำคัญก็คือสุขภาพร่างกายเป็นหลัก ส่วนเรื่องการคว้าแชมป์ลีกของ ลิเวอร์พูล บรรดาสาวก "เดอะ ค็อป" ไม่ต้องไปตื่นตระหนกมากนักกับการแสดงความเห็นในสื่อสังคมออนไลน์ เพราะจะทำให้เครียดไปเปล่าๆ.....