คนแห่ทะลักแน่นร้านยาหลังพาณิชย์ทยอยหน้ากากอนามัย 7,200 ชิ้นใน 3 อำเภอ ด้านชาวนราฯหวั่นรับเชื้อโควิด-19 จากมาเลย์
นางสาวณัฐชไม เสน่หา พาณิชย์ จ.นราธิวาสพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพาณิชย์ จ.นราธิวาส กระจายกำลังเดินทางลงพื้นที่ 3 อำเภอของ จ.นราธิวาส ประกอบด้วย อ.เมืองนราธิวาส อ.แว้ง และ อ.สุคิริน เพื่อตรวจสอบตามร้านขายยาจำนวน 4 ร้าน คือ ร้านศูนย์ยานรา ถ.วิจิตรไชยบูลย์ และร้านอมรรัตน์เภสัช ถ.พิชิตบำรุง เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส รวมทั้งร้านฟารุกเภสัชอ.แว้ง และสุคิรินเภสัช อ.สุคิริน ซึ่งเป็น 4 ใน 20 ร้านที่ได้แจ้งความประสงค์กับทางสำนักงานพาณิชย์ จ.นราธิวาส ที่ต้องการ
หน้ากากอนามัย หรือ Mask ซึ่งเป็นสินค้าควบคุม ทั้งนี้ภายหลังจากที่ทางศูนย์บริหารจัดการหน้ากากอนามัย กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ได้ทยอยปล่อยหน้ากากอนามัยเป็นล็อตๆ ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้พบว่ายังไม่เพียงพอกับความต้องการของประชาชนที่ตื่นตัวกับการป้องกันตัวเองจากโรคระบาดไวรัสโคโรนา(Covid-19)
ทั้งนี้จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศยกระดับให้โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นโรคติดต่อร้ายแรง ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลก มีผู้ป่วย 116,345 ราย เสียชีวิต 4,091 ราย ขณะที่สถานการณ์ โรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยยังมีการระบาดอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยจนถึงขณะนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 13 มีนาคม 2563 ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมจำนวน 75 ราย นอกจากนี้แล้ว จ.นราธิวาสยังเป็นพื้นที่ที่มีความสุ่มเสี่ยงเนื่องจากเป็นจังหวัดชายแดนที่ติดกับประเทศมาเลเซีย ที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากกว่าไทย
ทางด้านนางสาวณัฐชไม เสน่หา พาณิชย์ จ.นราธิวาสเปิดเผยว่า ทางกรมการค้าภายในได้ทยอยส่งหน้ากากอนามัยเป็นล็อตๆ เพื่อให้ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดนำไปจำหน่ายให้กับร้านขายยาจำนวน 1,800 ชิ้นต่อร้านต่อวัน โดยร้านขายยารับไปในราคาชิ้นละ 2 บาทและจำหน่ายให้ประชาชนในราคาควบคุมอยู่ที่ 2.50 บาทและเป็นราคาควบคุมตามกฎหมาย โดยหน้ากากอนามัยจำนวน 1,800 ชิ้นสามารถจำหน่ายให้ประชาชนคนละ 1 แพ็คๆละ 4 ชิ้นเท่านั้น และล่าสุดหน้ากากอนามัยที่ได้ทยอยไปตามร้านขายยาในพื้นที่ 13 อำเภอของ จ.นราธิวาส จำนวน 19,200 ชิ้นแล้ว