͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: รับผีน้อยกลับไทย ทอท.ยกระดับคัดกรองเข้มข้นโควิด-19 ใน 6 สนามบิน ย้ำปลอดภัย  (อ่าน 531 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ deam205

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15570
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)หรือ ทอท.เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นหลายประเทศทั่วโลก ทอท.ได้เพิ่มมาตรการตรวจคัดกรองผู้โดยสารระหว่างประเทศขาเข้าให้เข้มงวดมากขึ้นตามสั่งการของนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) เพิ่มมาตรการคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศทุกเที่ยวบินอย่างเข้มงวด โดยติดตั้งเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายด้วยระบบอินฟราเรด (Thermoscan) 2 จุด บริเวณแนวทางเดินด้านทิศเหนือ ใกล้กับอาคารเทียบเครื่องบินหมายเลข 2 (Pier 2) และบริเวณแนวทางเดินด้านทิศใต้ ใกล้กับอาคารเทียบเครื่องบินหมายเลข 3 (Pier 3)อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1

สำหรับท่าอากาศยานหาดใหญ่และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ได้จัดหลุมจอดเฉพาะสำหรับเที่ยวบินที่มาจากต่างประเทศทุกเที่ยวบิน พร้อมติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนตรวจวัดอุณหภูมิผู้โดยสาร โดยท่าอากาศยานหาดใหญ่(ทหญ.)ติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนบริเวณพื้นที่หน้าด่านควบคุมโรค ห้องโถงผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ และ ทชร.ติดตั้งบริเวณหน้าพิธีการตรวจคนเข้าเมืองห้องโถงผู้โดยสารขาเข้า ขณะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.),ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.)และท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) นอกจากเพิ่มมาตรการตรวจคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าอย่างเข้มงวดแล้ว ยังเพิ่มมาตรการตรวจคัดกรองเฝ้าระวังผู้โดยสารขาออกที่จะเดินทางออกจากประเทศไทย เพื่อให้ผู้โดยสารมั่นใจว่าผู้ที่ร่วมเดินทางทุกคนถูกตรวจคัดกรองสุขภาพมาแล้วระดับหนึ่ง



ส่วนกรณีของแรงงานชาวไทยในสาธารณรัฐเกาหลีที่ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย ทอท.จะปฏิบัติตามขั้นตอนการคัดกรองผู้โดยสารเช่นเดียวกับกรณีเที่ยวบินที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงคือ มีการจัดให้ผู้โดยสารขาเข้าผ่านการคัดกรองจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ณ ด่านควบคุมโรคในบริเวณจุดตัดอาคารเทียบเครื่องบิน D และบริเวณด่านตรวจคนเข้าเมือง

นอกจากนี้เพื่อเป็นการคัดกรองอย่างเข้มข้นจะมีการคัดกรองอุณหภูมิเพิ่มเติมให้กับผู้โดยสารบริเวณหน้า Gate หากพบผู้เข้าข่ายต้องสงสัยติดโรคจะดำเนินการตามกระบวนการของกรมควบคุมโรค ส่วนผู้ที่ไม่เข้าข่ายจะดำเนินการตามกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองต่อไป โดยกรมการขนส่งทางบก และบริษัท ขนส่ง จำกัด(บขส.)จะจัดรถส่งผู้โดยสารไปยัง local quarantine และกำนัน ผู้ใหญ่บ้านหรือผู้นำชุมชนจะเป็นผู้ที่จะคอยติดตามให้อยู่ภายในที่พัก 14 วัน

ขณะเดียวกันทุกท่าอากาศยานของ ทอท.ยังได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน (EOC) ร่วมกับหน่วยงานต่างๆในท่าอากาศยานเช่น ตม. ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ศุลกากร ตามสั่งการกระทรวงคมนาคม โดยจะมีการประชุมร่วมกันทุกวัน เพื่อประสานงาน และแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน และใช้ประโยชน์จากระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS) ซึ่ง ทอท.และ ตม.ได้ติดตั้งและใช้งานมาตั้งแต่ปี 2558 มาช่วยในการคัดกรองให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากระบบ APPS จะมีการส่งรายชื่อผู้โดยสารพร้อมข้อมูลการเดินทางระหว่างประเทศทั้งขาเข้า ขาออก และผู้โดยสารเปลี่ยนผ่านลำ(Transit /Transfer)มายังระบบฐานข้อมูลของ ตม.จึงขอให้ประชาชนมั่นใจว่าทุกหน่วยงานได้ดำเนินการอย่างเข้มงวดครบถ้วน และเต็มความสามารถตามขั้นตอนและมาตรฐาน เพื่อร่วมกันป้องกันไม่ให้ประเทศไทยเข้าสู่ระยะที่ 3 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจของประเทศไทยในภาพรวม



“ทอท.ได้ร่วมสนับสนุนด้านสุขภาพของประชาชน โดยบริจาคเงินประมาณ 21.82 ล้านบาทให้กับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อจัดซื้อเครื่องเทอร์โมสแกน 17 เครื่องเพิ่มเติม ซึ่งจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการคัดกรองผู้โดยสารภายในท่าอากาศยานจนถึงการรับมือโรคติดต่อสายพันธุ์ใหม่ในอนาคต นำไปสู่ความเชื่อมั่นของผู้ใช้บริการ ตลอดจนสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับการท่องเที่ยวไทยต่อไป”ข่าวโรคภัยอันตรายล่าสุดวันนี้