ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าลดลงในวันนี้ ตามทิศทางของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดลบในวันพุธ (19 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ
ดัชนี NIKKEI 225
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 26,954.15 จุด ร่วงลง 303.23 จุด หรือ -1.11%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 16,110.98 จุด ร่วงลง 400.30 จุด หรือ -2.42% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,032.63 จุด ลดลง 11.74 จุด หรือ -0.39%
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 13 ปีในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับแผนการพลิกฟื้นฮ่องกงให้หวนคืนสู่การเป็นศูนย์กลางการเงินระหว่างประเทศของนายจอห์น ลี ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษของฮ่องกง นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความกังวลต่อผลกระทบของการที่ฮ่องกงต้องดำเนินนโยบายโควิดเป็นศูนย์ตามแนวทางของจีนต่อไป
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนีฮั่งเส็งร่วงลงรุนแรงถึง 3% ในการซื้อขายช่วงเช้านี้ แตะที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2552 โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลงหนักสุด นำโดยหุ้นอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิง และหุ้นเหม่ยถวน
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบในวันพุธ เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐได้บดบังปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทจดทะเบียน และนักลงทุนวิตกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ส่วนธนาคารกลางจีน (PBOC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี ที่ 3.65% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีไว้ที่ 4.30% ในวันนี้ตามความคาดหมาย
