ครั้งแรกในไทย! Dow จับมือเทพวิมลพลาสติก พัฒนาถาดบรรจุภัณฑ์อาหารแช่แข็งคาร์บอนต่ำ
กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) บริษัทชั้นนำระดับโลกด้านวัสดุศาสตร์ (Materials Science) ร่วมกับบริษัท เทพวิมลพลาสติก จำกัด ประกาศความสำเร็จในการพัฒนาถาดบรรจุภัณฑ์อาหารจากพลาสติกโพลีสไตรีนสูตรพิเศษซึ่งสามารถนำวัสดุสะอาดที่เหลือจากการผลิตบรรจุภัณฑ์ในโรงงานกลับมาใช้ประโยชน์ได้ถึง 87% ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 50% และลดขยะตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน พร้อมตอบโจทย์ลูกค้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมทั้งในและต่างประเทศ
ถาดอาหารแช่แข็งที่ผลิตจากโพลีสไตรีน (Polystyrene) ได้รับความนิยมอย่างมากในอุตสาหกรรมอาหารทั่วไป ผัก ผลไม้ และอาหารแช่แข็ง เนื่องจากมีน้ำหนักเบา ป้องกันการกระแทกได้เป็นอย่างดี ดูดซับความชื้นต่ำ และสามารถรีไซเคิลได้ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมและโซลูชันเพื่อสิ่งแวดล้อม จึงได้คิดค้นนวัตกรรมเม็ดพลาสติกโพลีสไตรีนสูตรใหม่ที่ช่วยให้ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์สามารถบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ พร้อมนำอุตสาหกรรมไทยมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน
Dow ได้ร่วมมือกับบริษัท เทพวิมลพลาสติก จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์จากโพลีสไตรีนรายใหญ่ของประเทศ นำนวัตกรรมเม็ดพลาสติกโพลีสไตรีนสูตรใหม่มาพัฒนาเป็นถาดบรรจุภัณฑ์อาหารแช่แข็ง (Frozen Foam Packaging) โดยพบว่าสามารถเพิ่มอัตราการนำชิ้นส่วนที่เหลือจากกระบวนการผลิต (scrap) มาผสมในถาดบรรจุภัณฑ์ใหม่ได้ถึง 87% และช่วยลดขั้นตอนในการผลิต ลดการใช้ทรัพยากร และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนได้มากถึง 2,046 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี เทียบเท่าการปลูกต้นไม้กว่า 6,340 ไร่ต่อปี
นายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า "Dow มุ่งมั่นนำเสนอนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความยั่งยืนและตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยให้ความสำคัญกับการลดคาร์บอน หยุดขยะพลาสติก และส่งเสริมวงจรรีไซเคิล เรายินดีที่ได้ร่วมกับเทพวิมลพลาสติกซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในการพัฒนาโซลูชันคาร์บอนต่ำตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียนซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งควบคู่ไปกับการบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน"
นายธนไชย วงษ์วิบูลย์สิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทพวิมลพลาสติก จำกัด กล่าวว่า "ความร่วมมือกับ Dow ในครั้งนี้ช่วยให้เราลดปริมาณการใช้ทรัพยากรได้เป็นอย่างมาก โดยสามารถนำชิ้นงานสะอาดที่มีขนาดไม่ได้มาตรฐานหรือหลงเหลือจากกระบวนการผลิตทั้งหมดกลับมาใช้ผลิตเป็นสินค้าใหม่ ลดภาระและค่าใช้จ่ายในการขนส่งและจัดการวัสดุเหลือใช้ในโรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ถาดอาหารแช่แข็งของเรามีการปลดปล่อยคาร์บอนที่ต่ำลงกว่าเดิมครึ่งหนึ่ง เป็นโอกาสสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในเวทีโลก อีกทั้งยังเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของเรากว่า 26 ปี ในการผลิตสินค้าคุณภาพที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพื่อสอดคล้องกับเทรนด์ของโลกที่กำลังเปลี่ยนไป"