ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าผันผวนตามทิศทางหุ้นสหรัฐ
ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าทั้งในแดนบวกและแดนลบ ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดผันผวนเมื่อวันศุกร์ (25 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงประเมินแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังสหรัฐเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานลดลงในรอบ 50 ปี นอกจากนี้ สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงสร้างแรงกดดันต่อตลาด
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 27,987.20 จุด ลดลง 162.64 จุด หรือ -0.58%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 21,683.35 จุด เพิ่มขึ้น 278.47 จุด หรือ +1.30% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,208.12 จุด ลดลง 4.12 จุด หรือ -0.13%
นักลงทุนยังประเมินแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดเปิดเผยว่า เฟดจำเป็นต้องเร่งดำเนินการเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ และเพิ่มความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนพ.ค. ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 28,000 ราย สู่ระดับ 187,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2512 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 212,000 ราย
นอกจากนี้ ตลาดยังคงจับตาการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยนายวลาดิเมียร์ เมดินสกี หัวหน้าคณะเจรจาของรัสเซียเปิดเผยว่า คณะผู้แทนของรัสเซียและยูเครนจะจัดการเจรจาสันติภาพรอบใหม่ในวันที่ 29-30 มี.ค.นี้ โดยจะเป็นการเจรจาแบบพบหน้ากัน
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีแห่งยูเครนได้ผลักดันให้มีการเจรจาต่อไปกับรัสเซีย ขณะที่รัสเซียส่งสัญญาณว่า กำลังลดเป้าหมายในการทำสงครามกับยูเครนลง โดยจะมุ่งความสนใจไปที่ภูมิภาคดอนบาสทางตะวันออกของยูเครนที่อ้างสิทธิ์โดยกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่รัสเซียสนับสนุน หลังจากที่การโจมตีในภูมิภาคอื่น ๆ หยุดชะงัก