สหรัฐเล็งผนึกกำลังพันธมิตร
ระบายน้ำมันจากคลังสำรองเพิ่มขึ้น
นายอามอส โฮคสไตน์ ที่ปรึกษาระดับอาวุโสของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยในวันอังคาร (8 มี.ค.) ว่า สหรัฐและประเทศต่าง ๆ จะพิจารณาระบายน้ำมันจากคลังสำรองเพิ่มเติม หากมีความจำเป็น
ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยถ้อยแถลงของนายโฮคสไตน์ว่า คณะบริหารภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดนมุ่งมั่นที่จะลดผลกระทบของต้นทุนเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังสหรัฐและพันธมิตรออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียโทษฐานรัสเซียรุกรานยูเครน แต่กล่าวเสริมว่าไม่ง่ายนัก หากจะทดแทนการส่งออกน้ำมันดิบของรัสเซียทั้งหมด
สหรัฐและบรรดาประเทศสมาชิกสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้เห็นพ้องต้องกันว่า จะระบายน้ำมันดิบในคลังสำรอง 60 ล้านบาร์เรล เพื่อบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันที่แพงขึ้น
"หากเราจำเป็นต้องผนึกกำลังกับพันธมิตรเพื่อดำเนินการบางสิ่งอีกครั้ง เราก็จะทำ" นายโฮคสไตน์กล่าวที่การประชุมพลังงาน CERAWeek ในเมืองฮิวสตัน
เบื้องต้นนั้น ทำเนียบขาวไม่ต้องการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันและก๊าซของรัสเซียโดยตรง เนื่องจากกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคทั่วโลก อย่างไรก็ดี ผู้ซื้อพลังงานรัสเซียจำนวนมากได้ออกมาตรการคว่ำบาตรเอง โดยหลีกเลี่ยงการซื้อน้ำมันของรัสเซียเพราะเกิดความไม่พอใจเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน
นายโฮคสไตน์ประเมินว่ามีน้ำมันตกค้างอยู่ประมาณ 3 ล้านบาร์เรลในขณะนี้ เนื่องจากผู้ซื้อในยุโรปและสถานที่อื่น ๆ ปฏิเสธที่จะซื้อน้ำมันจากรัสเซีย