พิเศษ!! ทัวร์เราบริการ รับส่งฟรี สนามบินอุดรธานี ไม่มีคิดค่าบริการเพิ่ม
สำหรับสายการบินที่บินมาลงที่สนามบินอุดรธานี นอกจากออกจาก กรุงเทพ แล้วยังมีที่อื่นอีก น่ะครับ
สำหรับท่านที่ มาจาก ภูเก็ต หาดใหญ่ เชียงใหม่ พัทยา เพื่อไปเที่ยวหลวงพระบาง ท่านอาจจะจำเป็นต้อง พักเพิ่มอีก 1 คืน จะพักที่เวียงจันทน์หรือหนองคายเพิ่มอีก1 คืนก็ได้ เพื่อความสะดวกในโปรแกรมทัวร์ของท่าน ราคาทัวร์ต้องสอบถามเพิ่มเติม อีกครั้งนึง
ทัวร์หลวงพระบาง หนองคายไฮไลท์โปรแกรมทัวร์เซียงขวาง
เที่ยวทุ่งไหหิน
สัมผัสอากาศเย็นทั้งปี ที่เมืองเชียงขวาง
เที่ยวเมืองมรดกโลกหลวงพระบาง
ร่วมใส่ปาตรข้าวเหนียว ที่หลวงพระบาง
เที่ยวกุ้ยหลินเมืองลาว วังเวียง ทัวร์หลวงพระบาง วังเวียง
ติดตามผลงานทัวร์ของเรา ที่ แฟนเพจ แอลทูบีทราเวล ของเราได้ที่นี่ >> คลิ๊กเลยเที่ยว 2 มรดกโลก ของประเทศลาว ทั้ง เมืองหลวงพระบาง และ ทุ่งไหหิน ที่ แขวงเชียงขวาง
ทริปสุดคุ้มเที่ยวครบลาวเหนือรอท่านมาสัมผัส!!!
ทัวร์เชียงขวาง ทุ่งไหหิน หลวงพระบาง วังเวียง ปี 2562วันแรก : สนามบินอุดร/หนองคาย-ปากซัน-ทุ่งไหหิน-เชียงขวาง
07.00 น. เจ้าหน้าที่ แอลทูบีทราเวล ให้การต้อนรับ คณะที่สนามบินอุดรธานี หรือ หนองคาย
08.00 น. เดินทางไปสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว เพื่อรอทำเอกสารผ่านแดนข้ามไปประเทศลาว
09.00 น. จากนั่นนำท่านเดินทางสู่ แขวงเชียงขวาง เดินทางเข้าสู่เส้นทางหมายเลข 13 ใต้ รถวิ่งผ่านบ้านปากงึม ซึ่งแม่น้ำงึมไหลมาบรรจบกับแม่น้ำโขง ระหว่างทางแวะกราบไหว้าพระพระพุทธรูปที่วัดพระบาทโพนสัน เพื่อเป็นศิริมงคล จากนั้นเดินทางต่อ รถวิ่งผ่านปากกะดิ่ง รถวิ่งข้ามสะพานแม่น้ำซัน เมืองปากซัน แขวง.ิคำไซ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับจังหวัดบึงกาฬ ประเทศไทย เลี้ยวเข้าสู่เส้นทางหมายเลข 7 ไปยังเมืองโพนสะหวัน แขวงเชียงขวาง เมืองโพนสะหวัน ชมวิวทิวทัศน์และวิถีชีวิตชาวบ้านระหว่างทาง ทัวร์หลวงพระบาง วังเวียง
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 1 )
13.00 น. เดินทางต่อสู่เชียงขวาง รถวิ่งผ่านเมืองบอริคัน บ้านผาเมือง บ้านห้วยคูน บ้านทุ่งใหญ่ บ้านท่าสี นำท่านแวะเข้าห้องน้ำที่บ้านท่าสี จากนั้นเดินทางต่อสู่เมืองโพนสะหวัน แขวงเชียงขวาง ชมวิวทิวทัศน์และวิถีชีวิตชาวบ้านระหว่างทาง ท่านจะเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามตระกานตาของทิวเขา รถวิ่งผ่านบ้านปากยอง บ้านขี้นุ่น บ้านปู้ บ้านท่าสามคอน บ้านท่าเวียง บ้านเวียงทอง บ้านทาดทม เชียงดง สองเสี้ยว บ้านหลวง เมืองคูน ซึ่งในอดีตเป็นเมืองเก่าของแขวงเชียงขวาง ช่วงสงครามอินโดจีน เมืองคูนแห่งนี้ถูกอเมริการะดมทิ้งระเบิดอย่างนัก จนวัดอารามที่สวยงามพังทลายจนหมดสิ้น ส่วนอาคารทูตฝรั่งเศสนั้นแม้จะจะได้รับความเสียหายจากการทิ้งระเบิดไม่น้อจแต่ก็ยังคงอยู่รอดมาได้ ส่วนตึกบางแห่งที่เหลือแต่เพียงซากปรักหักพัง ทางการลาวยังคงสภาพเดิมเอาไว้เพื่อให้ชาวลาวรุ่นหลังได้เห็นพิษภัยความหายนะของสงครามที่เกิดขึ้นในอดีตหลังสงคราม อินโดจีนสิ้นสุดลง ทางการลาวได้ทำการย้ายเมืองหลวงจากเมืองคูนมาอยู่ที่เมืองโพนสะหวันในปัจจุบันนี้ นำชมเจดีย์ที่ยังหลงเหลืออยู่ ภายในตัวเมืองคูนเมืองหลวงเก่าของแขวงเชียงขวางจะเห็นวัดอยู่แห่งหนึ่ง ตั้ง อยู่ติดริมถนนทางด้านซ้ายมือมีชื่อว่าวัดเพีย มีอายุเก่าแก่ 644 กว่าปี วัดเพียแปลเป็นภาษาไทยว่า วัดใหญ่ คำว่าเพียแปลว่าใหญ่ ตัวพระอุโบสถมีแต่เพียงซากปรักหักพังซึ่งเกิดจากพิษภัยของสงครามคงเหลือแต่พระพุทธรูปปางสมาธิที่ทำมาจากปูนความสูงประมาณ 10 เมตร ประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง เป็นที่เคารพบูชาของชาวเมืองคูนและประชาชนลาวทั่วไป ด้านข้างมีกุฏิพระใช้เป็นที่จำพรรษาของภิกษุสามเณร ก่อนถึงวัดเพียประมาณ 100 เมตร จะมีทางแยกลูกรังซ้ายมือเข้าไปยังพระธาตุฝุ่น ระยะทางประมาณ 200 เมตร เป็นพระธาตุเก่าแก่องค์หนึ่งในเมืองคูน รอบฐานองค์พระธาตุฝุ่นจะสมบูรณ์ไปด้วยดอกบัวตองหรือที่ชาวลาวเรียกว่า ดอกบัวขม ออกดอกสีเหลืองบานสะพรั่งรอบฐานองค์พระธาตุฝุ่น จากนั้นชมวัดสีพรมชึ่งเป็นวัดที่เก่าแก่อีกวัดหนึ่ง สร้างพร้อมๆ กันกับวัดเพียวัด ริมถนนทางเข้าพระธาตุคือตลาดเมืองคูน เป็นตลาดขนาดเล็กที่มีชนเผ่าต่างๆ นำผลผลิตทางการเกษตรและของป่ามาวางขายริมถนนราคาถูก ชาวลาวในเมืองคูนมาจับจ่ายซื้อสินค้ากันพอสมควร สงครามต้านจักรพรรดิ์ต่างชาติ เมืองพวนก็เคยเป็นเมืองประวัติศาสตร์ ของแขวงเชียงขวาง และมีสถานที่โบราณมากมายหลายแห่ง เช่น วัดธาตุจอมเพ็ชร วัดธาตุฝุ่น ฯลฯ ซึ่งแต่ละวัดดังกล่าวนั้นตามกาลเล่าของคนเฒ่าคนแก่ว่า เป็นวัดที่สร้างขึ้นก่อนสมัยเจ้าฟ้างุ้ม ประ มาณ 200 กว่าปี ตามการเล่านิทานของผู้เฒ่าผู้แก่บอกว่า เมื่อก่อนมีการแข่งขันกันระหว่างผู้หญิง และผู้ชาย เพื่อสร้างวัด ว่าใครจะมีความสามารถสร้างได้เสร็จเร็วกว่ากัน ซึ่งฝ่ายหญิงได้สร้าง วัดเพียวัด และธาตุวัดจอมเพ็ชร ส่วนฝ่ายชายสร้างวัดสีพรม ผลสุดท้ายฝ่ายหญิงสามารถสร้าง สำเร็จก่อนฝ่ายชายรื่องจากฝ่ายชายพูกล้างความลับจากฝ่ายหญิง สำหรับธาตุฝุ่นที่สร้างไว้บนจอมภูนั้น สร้างไว้เพื่อบรรจุเถ้าอังคารของพระพุทธเจ้าและมีสิ่งของที่สำคัญหลายอย่างบรรจุอยู่ในธาตุดังกล่าว ภายหลังถูกสงครามทำลายหักพังไปก็มีคนไปลักลอบขุดค้นเอา สิ่งของสำคัญไปจนหมด ซึ่งในปัจจุบันยังคงเหลือไว้เพียงซากหักพังเท่านั้น ภายหลังสงครามปี 1968 สถานโบราณดังกล่าวตลอดจนบ้านเรือนของประชาชนทั้งหมดก็ได้ถูกทำลายลงอย่างน่าเสียดาย เหลือไว้แต่ซากหักพังเพื่อเป็นสิ่งแสดงให้เห็นความโหดร้ายของสงคราม ปัจจุบันได้มีการบูรณะก่อสร้างซ่อมแซมขึ้นใหม่ จากนั้นเดินทางสู่เมืองโพนสะหวัน แขวงเชียงขวาง แล้วนำ
ชมทุ่งไหหิน ทุ่งที่ 1 บนที่ราบสูงทุ่งกว้างใหญ่ หินมีหลากหลาย เป็นหินตั้ง เสาหิน ฝาหินแท่น หินรู หินเสมา หินไหหิน ซึ่งมีลักษณะเป็นแท่งหินขนาดใหญ่เรียงรายหลาบร้อยใบ ใบใหญ่สุดสูงถึง 2–3 เมตร ส่วนใบเล็กที่สุดสูงประมาณเมตรเดียว ภายในไหถูกคว้านตรงกลางให้เป็นโพรง ดูจุดประสงค์การคว้านแล้วเหมือนตั้งใจจะใส่อะไรสักอย่าง ทุ่งไหหิน 1 มีจำนวน 298 ใบ บางไหมีการทำปากไห มีรูปแกะสลักหิน มีฝาไห แต่ส่วนใหญ่เป็นไหเปล่า ตั้งอยู่บนเนินเตี้ยๆ สันนิษฐานว่า ไหหินเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในพิธีศพของคนเมื่อประมาณ 3,000 ปีที่แล้ว ข้อสนับสนุนสันนิษฐานนี้ค่อนข้างจะเป็นวิทยาศาสตร์ เพราะมีการค้นพบกระดูกคน ที่เผาแล้วและเครื่องมือเครื่องใช้อื่นๆ ที่มักใช้ในพิธีศพบรรจุอยู่ในไหหิน นอกจากนี้นักโบราณคดียังค้นพบเถ้าถ่านที่เข้าใจว่าเป็นกระดูกมนุษย์และสิ่งอื่นๆ เช่น ขวาน หินขัด ลูกปัดแก้ว เครื่องปันดินเผา เครื่องประดับสำริด และเครื่องมือเหล็กในบริเวณโดยรอบด้วย ส่วนข้อสันนิษฐานหนึ่งว่ากันว่า ไหหินเหล่านี้เป็นไหเหล้าเจือง ครั้งเมื่อทำสงครามกับพวกแกวและตีเอาเมืองเชียงขวางจากพวกแกวได้ก็ทำการฉลองชัยชนะอยู่ที่ทุ่งเชียงขวางนี้ถึง 7 เดือน ในการนี้ขุนเจืองสั่งทำไหเหล้าเลี้ยงไพร่พลเป็นอันมากและไหเหล่านั้นก็คือไหเหล้าที่ทุ่งไหหินนี้เอง ส่วนข้อสันนิษฐานสุดท้ายว่าไหหินเหล่านี้น่าจะเป็นอย่างเดียวกับหินตั้งลักษณะแปลกๆ ทั่วโลก เช่น STONE HENGE ที่มีลักษณะร่วมอย่างหนึ่งคล้ายคลึงกันคือ เป็นหินตั้งกลางแจ้งมองเห็นได้เด่นชัด เชิญถ่ายภาพอิสระตามอัธยาศัย
19.00 น. รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 2 ) และเข้าที่พัก เมืองเชียงขวาง และให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่สอง : เชียงขวาง-หลวงพระบาง-ถนนคนเดิน
07.00 น. รับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 3 ) ที่โรงแรม
08.00 น. อำลาเมืองเชียงขวาง จาก นั้นมุ่งหน้าเดินทางสู่หลวงพระบาง ตามระหว่างทางเราแวะถ่ายรูป ตลอดสองข้างทางท่านจะเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามตระการตาของทิวเขาไรน่าแบบขั้นบันได ละหมู่บ้านชนพื้นเมืองต่างๆของลาว เช่น ลาวสูง ลาวเทิงลาวม้ง ไทลื้อ ซึ่งตั้งบ้านเรือนอยู่สองข้างทางชมความยิ่งใหญ่ของขุนเขาที่เต็มไปด้วยไม้ป่านานาพันธ์ที่ขึ้นตามธรรมชาติเส้นทางสายนี้จัดเป็นเส้นทางลัดเลาะภูเขาที่สวยที่สุด แห่งหนึ่งของเอเซียอาคเนย์ก็ว่าได้
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 4) เมืองพูคูน
13.00 น. และนำท่านเดินทางต่อไปยัง เมืองหลวงพระบาง
19.00 น. รับประทานอาหารเย็น(มื้อที่ 5) เช็คอินเข้าที่พักหลวงพระบาง จากนั้นนำท่านพาเดินเที่ยวตลาดมืดหลวงพระบาง ชมสินค้าผ้าทอกระเป๋าทำมือ มากมาย
วันที่สาม : ตักบาตรข้าวเหนียว-พระธาตุพูสี-พระราชวัง-วัดเชียงทอง-ถ้ำติ่ง-น้ำตก ตาดกวางสี
05.30 น. เชิญ ท่านร่วม ทำบุญใส่บาตรข้าวเหนียว พร้อมกับประชาชนชาวหลวงพระบางในทุกเช้า พระสงฆ์และสามเณรจากวัดต่างๆ จะออกบิณฑบาต เป็นแถวนับร้อยรูป ซึ่งเป็นภาพอันน่าประทับใจ และสื่อถึงความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาของชาวหลวงพระบาง จากนั้นนำท่านเดินชมตลาดเช้าของชาวหลวงพระบางซึ่งเป็นตลาดสด ท่านสามารถเลือกซื้ออาหารพื้นเมือง และของป่า ซึ่งเป็นแบบฉบับของชาวลาว
07.00 น. รับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 6)
08.00 น. นำท่านเข้าชม พระราชวังหลวงพระบาง สร้างในรัชสมัยเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ โดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส เป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบฝรั่งเศสและลาว เป็นที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ จนพระองค์สวรรคต ก็มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เมื่อ พศ.2518 ปัจจุบันได้เปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์ นำท่านชมหอพระบางเป็นที่ประดิษฐานพระบาง พระคู่บ้านคู่เมือง เป็นพระพุทธรูปประทับยืนปางห้ามสมุทรเป็นศิลปะขอมสมัยบายน น้ำหนัก 54 กิโลกรัม เป็นทองคำ 90 เปอร์เซ็นต์
09.00 น. จาก นั้นนำท่านชม วัดเชียงทอง วัดที่ตั้งอยู่ริมผั่งเม่น้ำโขงสร้างในรัชสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ช่วงประมาณ ปี พศ 2102 – 2103 ซึ่งวัดเชียงทองได้รับการอุปถัมภ์จากเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงค์ และเข้าชีวิตศรีสว่างวัฒนา กษัตริย์สองพระองค์สุดท้าย ชมพระอุโบสถ ที่มีศิลปะแบบล้านช้าง หลังศรแอ่นโค้งต่ำ ซ้อนกันอยู่สามชั้น มีช่อฟ้าที่อยู่ตรงกลางของหลังคารวมกัน 17 ช่อ ถ้าเป็นคนสามัญสร้างจะมี 1-7 ช่อเท่านั้น ชมพระพุทธรูปป่างห้ามสมุทรในอูปมูง ด้านข้างพระอุโบสถ ชมวิหารพระม่านที่ประดิษฐานพระม่าน ผนังสีชมพู ภาพประดับกระจกสีเล่าถึงวิถีชีวิตชาวหลวงพระบาง ชมโรงราชรถ
ออกแบบโดยเจ้ามณีวงศ์ ภายในบรรจุพระพุทธรูปแกะสลักไม้จำนวนมากที่เก็บมาจากวัดร้างต่างๆ
10.00 น. นำ ท่านชม วัดวิชุนราช สร้างในสมั่ยพระเจ้าวิชุนราช (พศ 2046 ) นับเป็นอีกหนึ่งพระธาตุที่ชาวหลวงพระบางให้ความนับถือ ซึ่งเป็นพระธาตุที่มีรูปทรงคล้ายกับลูกแตงโมผ่าครึ่ง
10.30 น.เดินทางไปยังหมู่บ้านซ่างไห เพื่อลงเรือเดินทางชมวิวทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำโขง รับประทานอาหารกลางวันประเภทปลาน้ำโขงที่หมู่บ้านปากอู
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน(มื้อที่ 7 ) ถ้ำติ่งซึ่งเป็นถ้ำอยู่บนหน้าผาริมแม่น้ำโขงมีอยู่ 2 ถ้ำ คือ ถ้ำล่างและถ้ำบน ถ้ำติ่งลุ่ม หรือ ถ้ำล่างสูง 60 เมตรจากพื้นน้ำ มีลักษณะเป็นโพรงน้ำตื้นๆ มีหินงอกหินย้อย มีพระพุทธรูปไม้จำนวนนับ 2,500 องค์ ส่วนใหญ่จะเป็นพระยืน มีทั้งปางประทานพร และปางห้ามญาติ ถ้ำติ่งบน จะไปทางแยกซ้ายเดินขึ้นบันไดไป 218 ขั้น ปากถ้ำไม่ลึกมากมีพระพุทธรูปอยู่ในถ้ำแต่ไม่มากเท่าถ้ำล่างสมัยโบราณเป็นที่สักการะบวงสรวงดวงวิญญาณ ผีฟ้า ผีแถน เทวดาผาติ่ง ต่อมาพระเจ้าโพธิสารทรงเลื่อมใสพระพุทธศาสนาเป็นผู้นำพระพุทธรูปเข้ามา และจึงทรงใช้ถ้ำติ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนา
15.00 น. พา คณะไปชม น้ำตกตาดกวางสี ห่างจากเมืองหลวงพระบางประมาณ 30 กม.ผ่านหมู่บ้านชนบทริมสองข้างทาง ชมความงดงามของน้ำตก ซึ่งเป็นน้ำตกที่สูงราว70-80เมตร ถือเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในหลวงพระบาง โดยมีสายน้ำที่ลดหลั่นผ่านชั้นหินปูนลงสู่แอ่งน้ำที่สดใส มีทางเดินลัดเลาะขึ้นไปสู่ชั้นบนเพื่อชมความงามอีกมุมหนึ่งของน้ำตก อิสระให้ท่านดื่มด่ำกับธรรมชาติ เล่นน้ำ บันทึกภาพอันประทับใจ
17.00 น. นำ ท่านขึ้นสู่ เขาพูสี ขึ้นบันได 328 ขั้น เชิญนมัสการธาตุพูสี เจดีย์ธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวหลวงพระบาง ตลอดทางขึ้นท่านจะได้รับกลิ่นหอมจากดอกจำปาลาว ดอกไม้ประจำชาติลาว เมื่อท่านถึงยอดให้ท่านนมัสการองค์พระธาตุ ซึ่งสร้างในสมัยพระเจ้าอนุรุท เมื่อปี พ.ศ.2337 พระธาตุเป็นรูปทรงดอกบัว อยู่บนฐานสี่เหลี่ยมยอดประดับด้วยเศวตฉัตรทองสำริด 7 ชั้น สูงประมาณ 21 เมตร ชมพระอาทิตย์ยามอัสดง วิวทิวทัศน์รอบเมืองหลวงพระบางยามเย็น
18.00 น.รับประทาน อาหารเย็น (มื้อที่
ที่ร้านอาหาร
19.00 น. เช็คอินเข้าที่พัก หลวงพระบาง และพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่สี่ : หลวงพระบาง-วังเวียง-ถ้ำจัง
07.00 น. รับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 9 )
08.00 น. เดินทางออกจากหลวงพระบาง ระยะทาง 200 กม เพื่อมุ่งหน้า สู่ เมืองวังเวียง
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 10)
15.00 น. เดินทางถึง “กุ้ยหลินเมืองลาว” พาคณะชมถ้ำจัง ถ้ำที่สวยที่สุดของวังเวียงภายในเป็นโถงใหญ่ มีไฟประดับ ภายในบริเวณถ้ำจะสัมผัสได้ถึงอากาศเย็นฉ่ำ หินงอกหินย้อยอันงดงาม
18.00 น. รับประทานอาหารเย็น(มื้อที่ 11 ) และเข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัยหรือท่านใดต้องการเดินเที่ยวเล่นในตัวเมืองวังเวียงยามค่ำคืน ทางทีมงานมีบริการรถรับส่งให้ท่าน
วันที่ห้า : วังเวียง-เวียงจันทน์-พระธาตุหลวง-ประตูชัย-หนองคาย
07.00 น. รับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 12 )
08.00 น.จากนั้นออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ กำแพงนครหลวงเวียงจันทน์ ระยะทาง 150 กม.
12.00น. รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 13 ) ณ ภัตตาคาร ด้วยเมนูอาหารหลากหลาย
13.00 น. นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์หอพระแก้ว (Hor Phra Kaew Museum) ซึ่งครั้งหนึ่ง เคยเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตก่อนที่จะถูก อันเชิญมาไว้ที่กรุงธนฯโดยเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก(ร. 1) เมื่อปี ค.ศ. 1778 นำท่านเข้าชม นมัสการ พระธาตุหลวงหรือพระเจดีย์โลกจุฬามณี เป็น ปูชนียสถานที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่งในนครหลวงเวียงจันทน์ สร้างใน สมัยเดียวกันกับการสร้างเมืองเวียงจันทน์ โดยพระเจ้าจันทบุรีประสิทธิศักดิ์ และ พระอรหันต์ 5 องค์บรรจุพระบรม สารีริกธาตุ ส่วนหัวเหน่าของพระพุทธเจ้าไว้ในองค์พระธาตุ เดิมเป็น พระธาตุองค์เล็ก ๆ ต่อมาในสมัยของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชได้นำ พาประชาชน สร้างพระธาตุองค์ใหญ่ครอบพระธาตุองค์เดิมไว้จนถึงปัจจุบันนี้ สวยงามและ ยิ่งใหญ่ ที่สุดในประเทศลาว-อนุสาวรีย์ประตูชัย (Victory Monument) Victory Monument) สถาปัตยกรรม ผสมผสานลาว ล้านช้าง กับฝรั่งเศส ตั้งตระหง่านสูงเด่นอยู่ ใจกลางนครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อรำลึกถึงวีรชนของชาติ ที่ เสียสละ เพื่อชาติบ้านเมืองมา ทุกยุค ทุกสมัย ชั้นบนสุดท่าน สามารถชมทิวทัศน์ของเวียงจันทน์ได้รอบทิศทาง
15.00 น. ได้เวลาอันสมควร นำคณะมาที่ด่านชายแดนลาว-ไทย ให้ท่านแวะช๊อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี ที่ Duty free ของลาว ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ทำเอสการข้ามแดน ที่ด่านลาวเลือกซื้อสินค้านานาชาติมียี่ห้อ ราคาถูก ต่างๆ มากมาย อาทิ เหล้า ไวน์ บุหรี่ และเครื่องสำอาง
16.30 น. เดินทางกลับเมืองไทยด้วยความประทับใจ และส่งท่านตามที่นัดหมาย
ลูกค้าสามารถออกแบบเส้นทางเที่ยวนอกเหนือจากโปรแกรมเที่ยวข้างบน ได้ตามใจชอบ สามารถโทรปรึกษากับเราได้ตลอดเวลา จำเป็นต้องมีพาสปอร์ต เท่านั้น อัตรานี้รวมค่ารถตู้ปรับอากาศ รุ่นใหม่ ToyoTa Commuter ตลอดการเดินทาง
ค่าที่พัก (โรงแรมในประเทศลาว 4 คืนพัก 2 ท่าน/ห้อง วังเวียง 1คืน,เซียงขวาง1คืน,หลวงพระบาง2คืน)
ค่าอาหารทุกมื้อ ( 13 มื้อ)
น้ำดื่มและอาหารว่างระหว่างเดินทาง
ค่าธรรมเนียมสถานที่ต่าง ๆ รวมค่าผ่านแดนไปลาว
ค่าล่องเรือแม่น้ำโขง
ค่าประกันอุบัติเหตุตามเงื่อนไขกรมธรรม์ ท่านละ 1,000,000 บาท
มัคคุเทศก์นำเที่ยวตลอดการเดินทาง (ลาว )
อัตรานี้ไม่รวมค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด ค่ามินิบาร์
ค่าตั๋วเครื่องบิน กทม-อุดรธานี ไปกลับ
ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และหัก ณ ที่จ่าย 3 %
ค่ารายการอาหารนอกเมนู เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ค่ากระติ๊บใส่บาตรข้าวเหนียว ทำบุญ
ค่าทิปคนขับรถและไกด์ แล้วแต่น้ำใจของลูกค้า
--------------------------------------------------------------------------------
วิธีการจองทัวร์ กับ แอลทูบีทราเวล วิธีการจองทัวร์ โอนมัดจำเพียงท่านละ 2,000 บาทเท่านั้น ส่วนที่เหลือชำระก่อนวันเดินทาง 7 วัน หรือ ชำระส่วนที่เหลือในวันเดินทางเป็นเงินสดเท่านั้น
คำแนะนำในการจองทัวร์ ควร จองก่อนการเดินทางครับ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยวช่วงเทศกาล มักพลาดโอกาส เพื่อความแน่นอน แนะนำให้วางแผนการจองล่วงหน้าก่อน 1 เดือน (ทางทีมงานมิได้มีเจตนาที่จะรบกวนหรือเร่งรัด แต่หากเพื่อความแน่นอนของท่านที่จะได้ท่องเที่ยวตามความตั้งใจ)
การจองทัวร์ การสำรองที่นั่ง และการโอนเงิน
เลือกโปรแกรมที่จะเดินทาง จากนั้นโทรเข้ามาเช็คที่ว่าง และสำรองที่นั่งได้ทันที
รายละเอียดการโอนเงิน สามารถโอนเงินเข้าบัญชี นายไกรเศรษฐ์ ศรีสุวรรณ ธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชี นาย ไกรเศรษฐ์ ศรีสุวรรณ เลขที่บัญชี 264-217-1251 บัญชีออมทรัพย์ สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า กรุงเทพ
ธนาคากสิกรไทย ชื่อบัญชี นายไกรเศรษฐ์ ศรีสุวรรณ เลขบัญชี 758-217-4829 บัญชี ออมทรัพย์ สาขา เซ็นทรัลปิ่นเกล้า
เมื่อโอนเงินจองแล้ว ให้สแกนสลิปใบโอนเงินแล้วส่งมาที่เมลล์ L2btravel@hotmail.com หรือ ส่งเข้าไอดีไลน์ L2BTRAVEL
หากไม่สะดวกทั้งสองวิธีให้โทรมาที่เบอร์ 083-2743757
รายละเอียดสำคัญที่ควรระบุมาในอีเมลล์ หรือ ทางไลน์1. ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ต ต้องมีอายุการใช้งานอย่างน้อย 6 เดือน โดยการถ่ายรูป ส่งทาง ไอดี LINE :
L2BTRAVEL2. กรณีเดินทาง เข้าลาวใต้ กรุณา ส่ง เลขบัตรประชาชนด้านหน้า และ ด้านหลัง
3. ขอความกรุณาแจ้งชื่อ นามสกุล และเบอร์โทรที่ติดต่อ ได้สะดวก
ส่งเข้ามาที่ Email:
L2btravel@Hotmail.com ID LINE : L2BTRAVEL เงื่อนไขการยกเลิกทัวร์1. การยกเลิกการเดินทางจะมีผลสมบูรณ์ ก็ต่อเมื่อได้แฟกซ์ หรือ อีเมล์ การยกเลิกให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย
• ยกเลิกก่อนการเดินทาง 40 วันขึ้นไป คืนเงินทั้งหมด
• ยกเลิกก่อนการเดินทาง 30 วันขึ้นไป ยึดเงินมัดจำ
• ยกเลิกก่อนการเดินทาง 10-20 วัน เก็บค่าใช้จ่าย 80% ของราคาทัวร์
• ยกเลิกการเดินทางน้อยกว่า 10 วัน เก็บค่าใช้จ่ายทั้งหมด 100 % ของราคาทัวร์
2. การขอยกเลิกการเดินทางในกรณีที่เจ็บป่วยหรือมีเหตุจากร่างกายที่ไม่สามารถเดินทางในช่วงเวลาที่จองได้ การยกเลิกการเดินทาจะต้องแสดงใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายทั้งนี้บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์พิจารณาในการคืนเงินให้กับลูกค้าเป็นกรณีไป
3. ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองปฏิเสธการเข้า-ออกนอกประเทศซึ่งอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของบริษัท บริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนค่าทัวร์ไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น
4. ในกรณีกรุ๊ปที่เดินทางช่วงวันหยุด หรือ เทศกาล บริษัทฯได้มีการการันตีมัดจำ หรือ ซื้อขายแบบมีเงื่อนไขกับสายการบิน รวมถึงเที่ยวบินพิเศษ เช่น CHARTER FLIGHT (เหมาลำ), EXTRA FLIGHT (เที่ยวบินพิเศษที่เพิ่มเข้ามาช่วงวันหยุด หรือ เทศกาลดังกล่าว) บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินค่ามัดจำ หรือ ค่าทัวร์ทั้งหมด
ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิความรับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้นในกรณีดังต่อไปนี้♦ หากเกิดกรณีความล่าช้าจากสายการบิน, การประท้วง, การนัดหยุดงาน, การก่อจลาจล, การปิดด่าน,ภัยธรรมชาติ หรือกรณีที่ท่านถูกปฏิเสธการเข้าหรือออกเมืองจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองหรือเจ้าหน้าที่กรมแรงงานทั้งจากไทยและต่างประเทศ ซึ่งอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของบริษัทฯ
♦ หากท่านใช้บริการของทางบริษัทฯ ไม่ครบ อาทิ ไม่เที่ยวบางรายการ, ไม่ทานอาหารบางมื้อ เพราะค่าใช้จ่ายทุกอย่างทางบริษัทฯ ได้ชำระค่าใช้จ่ายให้ตัวแทนต่างประเทศแบบเหมาขาดก่อนออกเดินทางแล้ว
♦ หากเกิดทรัพย์สินสูญหายจากการโจรกรรมและ/หรือ เกิดอุบัติเหตุสูญหายที่เกิดจากความประมาทของตัวนักท่องเที่ยวเอง
♦ ตั๋วเครื่องบินเป็นตั๋วราคาพิเศษ หากท่านไม่เดินทางพร้อมคณะไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม ไม่สามารถนำมาเลื่อนวันเดินทางหรือคืนเงินได้
♦ หนังสือเดินทางต้องมีอายุเหลือใช้งานอย่างน้อย 6 เดือน บริษัทฯไม่รับผิดชอบหากอายุเหลือไม่ถึงและไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้