͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: SIMAT ดันบ.ลูกเข้าตลาด mai ในปี65,คาดผลงาน Q4/64 โตต่อหนุนกำไรปีนี้ทำนิวไฮ  (อ่าน 80 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Joe524

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15802
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายลงทุน บมจ.ไซแมท เทคโนโลยี (SIMAT) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการนำหุ้น บมจ.ฮินซิซึ (ประเทศไทย) (HST) บริษัทย่อยของ SIMAT เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยผู้ถือหุ้น SIMAT จะได้รับสิทธิในการจัดสรรหุ้นเพื่อรักษาสิทธิ (Pre-emptive offering) ตามสัดส่วนการถือหุ้น เตรียมนำเสนอวาระเข้าสู่การประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท ครั้งที่ 2/2564 ในวันที่ 24 ธ.ค. 64 เวลา 10.00 น. ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-EGM) และคาดว่าจะสามารถเข้าระดมทุนได้ภายในปี 65

ด้านแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 65 คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจไอทีโซลูชั่น ในโครงการ USO เฟส 2 ที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้กับบริษัทอีกทั้งยังมองหาโอกาสในการขยายโครงข่าย ในส่วนของการเดินสายอินเทอร์เน็ต เข้าไปในพื้นที่ชุมชนห่างไกล เพื่อเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ และเพื่อให้ชุมชนได้ใช้อินเทอร์เน็ตที่ราคาไม่แพง ผนวกกับแผนการนำหุ้น HST เข้าจดทะเบียนตลาด mai เพื่อรองรับแผนขยายธุรกิจในอนาคต จะช่วยผลักดันผลการดำเนินงานของบริษัทฯ เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและมั่นคง จากส่วนแบ่งของกำไรในฐานะบริษัทแม่

แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/64 มีทิศทางที่เติบโตต่อเนื่อง จากไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นช่วง High Season ของธุรกิจ ส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 64 เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับปี 63 ทั้งปีมีกำไรสุทธิที่ 40.78 ล้านบาท ขณะผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 64 มีกำไรสุทธิ 65.95 ล้านบาท สูงกว่ากำไรทั้งปีของปีที่ผ่านมา โดยได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจซิลค์สกรีนแฝงควบคุมในเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์โทรคมนาคม ที่ผลิตภายใต้บมจ.ฮินซิซึ (ประเทศไทย) จำกัด (HST) บริษัทย่อยของ SIMAT ที่ถือหุ้นในสัดส่วน 60% มียอดคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้บริษัทยังเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจไอทีโซลูชั่น ในโครงการอินเทอร์เน็ตชุมชน (USO) เฟส 2 ซึ่งเป็นการบริการจัดการและบำรุงรักษาในระยะเวลาต่อเนื่อง 5 ปี โดยมีมูลค่าสัญญา รวม 5 ปี กว่า 1.2 พันล้านบาท ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงต้นปี 65 เป็นต้นไป อีกทั้งบริษัทได้มีการควบคุมต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้บริษัทมั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนผลงานในปีนี้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้