ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลง 158.71 จุดเมื่อคืนนี้(11 พ.ย.) หลุดจากระดับ 36,000 จุด ส่วนดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,921.23 จุด ลดลง 158.71 จุด หรือ -0.44% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,649.27 จุด เพิ่มขึ้น 2.56 จุด หรือ +0.06% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,704.28 จุด เพิ่มขึ้น 81.58 จุด หรือ +0.52%
ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดในแดนบวก เนื่องจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร
ดัชนีดาวโจนส์ที่ร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด หลังตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 30 ปี
หุ้นของบริษัทวอลท์ ดิสนีย์ร่วงลง 7.07% หลังบริษัทเปิดเผยผลประกอบการต่ำกว่าคาดในไตรมาส 4 ของปีงบการเงิน 2564 หุ้นวอลท์ โดยดิสนีย์ เป็น 1 ใน 30 หลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนีดาวโจนส์
FedWatch Tool ของ CME Group ซึ่งวิเคราะห์การซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนก.ค.2565 จากเดิมที่คาดไว้ในเดือนก.ย.2565
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนก.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน