͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: น้ำมันดิ่ง2% ทองขึ้น-ดาวโจนส์ร่วง600จุด ผวายักษ์ใหญ่อสังหาจีน  (อ่าน 84 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Thetaiso

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 9362
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด


ราคาน้ำมันขยับลง 2% ในวันจันทร์(20ก.ย.) ได้แรงหนุนจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบหนักและทองคำพุ่งแรง ความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป บริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่อันดับ 2 ของจีน จะผิดนัดชำระหนี้ ผลักนักลงทุนเทขายหุ้นแล้วหันไปถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 1.68 ดอลลาร์ ปิดที่ 70.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 1.42 ดอลลร์ ปิดที่ 73.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ดอลลาร์ถูกมองในฐานะสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ หลังความกังเวลเกี่ยวกับการล้มละลายของเอเวอร์แกรนด์ เขย่าขวัญตลาดทุน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาไปที่ประชุมเฟดในช่วงกลางสัปดาห์นี้ ว่าจะมีการลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่

ด้านวอลล์สตรีทปิดลบแรงในวันจันทร์(20ก.ย.) จากแรงเทขายทั่วกระดาน เอสแอนด์พี500และแนสแดคขยับลงวันเดียวคิดเป็นเปอร์เซ็นต์หนักหน่วงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ความกังวลเกี่ยวกับการล้มละลายของเอเวอร์แกรนด์ ผลักนักลงทุนเทขายหลักทรัพย์แล้วหันไปถือครองสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย

ดาวโจนส์ ลดลง 614.41 จุด (1.78 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 33,970.47 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 75.26 จุด (1.70 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,357.73 จุด แนสแดค ลดลง 330.07 จุด (2.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,713.90 จุด

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลง นักลงทุนพากันเทขายสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น แล้วหันมาถือครองพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป บริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่อันดับ 2 ของจีน

แลร์รี เบรนนาร์ด นักวิเคราะห์จากบริษัททีเอส ลอมบาร์ด ระบุว่า การผิดนัดชำระหนี้ของเอเวอร์แกรนด์จะทำให้วิกฤตการณ์ทางการเงินลุกลามออกไปจนอาจกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

เอเวอร์แกรนด์ออกถ้อยแถลงยอมรับว่าบริษัทกำลังเผชิญปัญหาสภาพคล่อง และอาจไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด ขณะที่บริษัทมีกำหนดจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ 2 งวดในเดือนนี้ โดยมีกำหนดชำระดอกเบี้ยวงเงิน 83.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,780 ล้านบาท ในวันที่ 23 ก.ย.ของหุ้นกู้ที่มีกำหนดครบอายุเดือนมี.ค.2565 และมีกำหนดชำระดอกเบี้ยวงเงิน 47.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1,580 ล้านบาท ในวันที่ 29 ก.ย.ของหุ้นกู้ที่ครบอายุเดือนมี.ค.2567

นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 21-22 ก.ย. ท่ามกลางความกังวลว่าเฟดอาจส่งสัญญาณการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมครั้งนี้

ส่วนราคาทองคำในวันจันทร์(20ก.ย.) ปิดบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ท่ามกลางความกังวลเอเวอร์แกรนด์ล้มละลาย ขณะเดียวกันโลหะมีค่าชนิดนี้ยังได้แรงหนุนจากอุปสงค์ทางกายภาพในเอเชีย โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 12.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,763.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์

(ที่มา:รอยเตอร์)