͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: ไล่ MAKRO...ดักทางเข้า SET50 / สุนันท์ ศรีจันทรา  (อ่าน 137 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ kaidee20

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 16453
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด


หุ้นบริษัท สยามแมคโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO ร้อนฉ่าขึ้นมาทันที หลังประกาศซื้อหุ้น บริษัท ซี.พี. รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด เจ้าของ บริษัท โลตัสส์ สโตร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และโลตัสส์ มาเลเซีย โดยราคาพุ่งทะยานขึ้นเกือบ 20% ผิดปกติวิสัยหุ้นที่มักจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ

MAKRO จะรับโอนกิจการโลตัสส์ ทั้งประเทศไทยและมาเลเชีย โดยการซื้อหุ้น บริษัท ซี.พี.รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด จากบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด และ บริษัท ซี.พี. เมอร์แชนไดซิ่ง จำกัด ในราคาหุ้นละ 43.50 บาท

การซื้อหุ้นจะไม่ชำระด้วยเงิน แต่ MAKRO จะออกหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 5,010.32 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 50 สตางค์ คิดเป็นมูลค่า 217,949.07 ล้านบาท เพื่อชำระแทน

การรับโอนกิจการโลตัสส์ จะทำให้ MAKRO ก้าวเป็นยักษ์ใหญ่ในธุรกิจค้าปลีก ไม่เฉพาะในประเทศไทย แต่จะเป็นบริษัทค้าปลีกใหญ่ใหญ่ในเอเชีย ยกเว้นญี่ปุ่น และมีแผนขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียด้วย

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ โบรกเกอร์แต่ละสำนัก ประเมินว่า การซื้อโลตัสส์ จะส่งผลดีต่อการดำเนินงานของ MAKRO และกำหนดราคาเป้าหมายหุ้นอยู่แถวประมาณ 46 บาท

แต่ราคาหุ้นบนกระดานกลับพุ่งทะยานไปไกลกว่าราคาเป้าหมายที่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ประเมินไว้ โดยเมื่อวันพุธที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากประกาศการซื้อกิจการโลตัสส์ ราคาหุ้นปิดที่ 50 บาท เพิ่มขึ้น 8 บาท หรือเพิ่มขึ้น 19.05% มูลค่าซื้อขาย 7,571.88 ล้านบาท และเป็นหุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุดประจำวัน

MAKRO จัดอยู่ในหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี เป็นที่สนใจของนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งมักจะซื้อเพื่อการลงทุนระยะยาว โดยจ่ายเงินปันผลในอัตราสูงกว่า 2% อย่างสม่ำเสมอ มีค่า พี/อี เรโช 35 เท่า

แต่ปัญหาของ MAKRO ไม่มีสภาพคล่องในการซื้อขาย เพราะฟรีโฟลทหรือหุ้นที่นักลงทุนรายย่อยถือมีจำนวนต่ำ โดยจำนวนผู้ถือหุ้นรายใหญ่มี 11,032 ราย แต่ถือหุ้นรวมกันในสัดส่วน 6.92% ของทุนจดทะเบียนเท่านั้น

ทุนจดทะเบียนทั้งหมดของ MAKRO มีจำนวน 4,800 ล้านหุ้น มีมาร์เก็ตแคปหรือหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม 240,000 ล้านบาท โดยจัดเป็นหุ้นขนาดใหญ่ แต่ไม่ได้ถูกบรรจุคำนวณในดัชนี SET100 เนื่องจากปัญหาฟรีโฟลท

แต่ MAKRO มีแผนออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน เพื่อเสนอขายประชาชนผู้ลงทุนทั่วไป เพื่อเพิ่มฟรีโฟลทเป็น 15% โดยทุนจดทะเบียนปัจจุบันมี 4,800 ล้านหุ้น และจะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนอีก 5,010.32 ล้านหุ้น เพื่อแลกซื้อโลตัสส์ รวมจะมีทุนเป็น 9,810.32 ล้านหุ้น

ถ้าจะเพิ่มฟรีโฟลทเป็น 15% MAKRO จะต้องออกหุ้นเพิ่มทุนอีกไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขายประชาชนผู้ลงทุนทั่วไป

ยังไม่มีการเปิดเผยว่า MAKRO จะออกหุ้นใหม่เสนอขายประชาชนในราคาเท่าไหร่ แต่เมื่อการเพิ่มทุนครั้งใหญ่เสร็จสมบูรณ์ MAKRO จะมีทุนจดทะเบียนประมาณ 11,000 ล้านหุ้น

มาร์เก็ตแคปจะพุ่งพรวดสู่ระดับ 550,000 ล้านบาท โดยคำนวณจากราคาหุ้น 50 บาท ซึ่งไม่เป็นเพียงหุ้นขนาดยักษ์เท่านั้น แต่ยังเป็นหุ้นที่ไม่ติดเงื่อนไขฟรีโฟลท และสามารถถูกบรรจุเข้าคำนวณในดัชนี SET50 ในทันที

และถ้าอยู่ใน SET50 บรรดานักลงทุนสถาบันหรือกองทุนทั้งในและต่างประเทศ จะต้องเพิ่มน้ำหนักหุ้น MAKRO ในพอร์ต

ราคาหุ้น MAKRO ที่พุ่งทะยานเหนือคำทำนายของนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ในขณะนี้ เป็นไปได้หรือไม่ว่า จะมีแรงซื้อของกองทุนทะลักข้ามา นอกเหนือจากแรงซื้อของนักเก็งกำไรระยะสั้น

เพราะเมื่อประเมินแล้วว่า จำเป็นต้องซื้อ MAKRO เข้าพอร์ต ทำไมจะต้องรอจน MAKRO เข้า SET50

ทำไมไม่ชิงจังหวะเก็บเสียแต่ตอนนี้ ในขณะที่ราคายังไม่แรงเกินไป และไม่ต้องแย่งกันซื้อเท่าไหร่

เบื้องหลังความร้อนฉ่าของหุ้น MAKRO อาจเกิดจากกองทุนเข้ามาลุยเก็บก็ได้