͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: โควิดลากยาว! ทุบยอดทัวริสต์เที่ยวไทยปี 64 เหลือ 1.2 ล้านคน  (อ่าน 187 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Beer625

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13322
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด


นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า จากการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ที่รุนแรงจากเชื้อไวรัสกลายพันธุ์และยาวนานกว่าที่ประเมินไว้ ทำให้รัฐบาลต้องใช้มาตรการที่เข้มงวดในการควบคุมการระบาด ส่งผลต่อการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และอาจส่งผลต่อแผนการเปิดประเทศ

“หากไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้ได้ก่อนไตรมาส 4 ปี 2564 ททท.อาจต้องพิจารณาปรับลดเป้าหมายการทำงาน”

โดยปีนี้คาดการณ์แนวโน้มว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 1.2 ล้านคน ก่อให้เกิดรายได้ 85,000 ล้านบาท จากการฝากความหวังไว้ที่การเปิดประเทศในพื้นที่นำร่องแบบไม่กักตัว โดยเฉพาะโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ในมิติการสร้างความมั่นใจว่าไม่พบการติดเชื้อจากนักท่องเที่ยวต่างชาติไปยังคนในพื้นที่นำร่อง และจากคนในพื้นที่นำร่องไปยังนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ส่วนตลาดนักท่องเที่ยวไทยคาดว่าปีนี้จะอยู่ที่ 100 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 540,700 ล้านบาท เนื่องจากยังมีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศของรัฐบาลที่เตรียมไว้ ทั้งโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 และโครงการทัวร์เที่ยวไทย นอกจากนี้ยังมีความต้องการท่องเที่ยวของคนไทยภายหลังจากที่ต้องกักตัว ไม่สามารถออกเดินทางท่องเที่ยวได้เพราะต้องอยู่ภายใต้มาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวดมาระยะใหญ่ รวมถึงได้การกระตุ้นตลาดของ ททท.และรายการส่งเสริมการขายในช่วงปลายปีของผู้ประกอบการเป็นแรงหนุนสำคัญ ส่งผลให้แนวโน้มตลอดปีนี้ประเทศไทยน่าจะมีรายได้รวมจากการท่องเที่ยวทั้งตลาดในและต่างประเทศที่ 625,700 ล้านบาท

ขณะที่ก่อนหน้านี้ ททท.ตั้งเป้าหมายการทำงานปีนี้ว่าภาคท่องเที่ยวไทยจะสร้างรายได้รวมที่ 850,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากตลาดต่างประเทศ 300,000 ล้านบาท จากเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติ 3 ล้านคน ขณะที่รายได้จากตลาดในประเทศตั้งเป้าที่ 550,000 ล้านบาท จากเป้านักท่องเที่ยวไทย 100-120 ล้านคน-ครั้ง


ผู้ว่าการ ททท. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับปี 2565 ททท.ตั้งเป้าหมายสร้างรายได้รวมจากการท่องเที่ยว 2 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นซีนาริโอที่ดีที่สุดจากแนวโน้มการเติบโตทางการท่องเที่ยวของไทย คิดเป็น 2 ใน 3 เมื่อเทียบกับรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมดในปี 2562 ก่อนเจอวิกฤติโควิด-19 โดยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์และเน้นคุณภาพ ไม่เน้นจำนวน ให้น้ำหนักกับการเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อคนต่อทริป และการสร้างสมดุลระหว่างรายได้นักท่องเที่ยวต่างชาติกับนักท่องเที่ยวไทย

โดยมีเงื่อนไขความสำเร็จคือการกระจายวัคซีนจะคุมการระบาดให้ได้ในช่วงต้นไตรมาส 4 ปีนี้ ทำให้ระยะการเกิดระดับภูมิคุ้มกันหมู่ขึ้นในครึ่งปีแรกของปี 2565 และเศรษฐกิจไทยจะกลับสู่ระดับก่อนระบาดในปลายปีหน้า รวมทั้งเปิดประเทศได้ตั้งแต่เดือน ต.ค.นี้ ทั้งการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศแบบไม่กักตัว เป็นไปตามแผนและปลดล็อกการท่องเที่ยวในประเทศ และรัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง