͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: ประท้วงอลหม่านในเทนเนสซี ผู้ปกครองต้านสถาบันศึกษาบังคับเด็กสวมหน้ากากป้องกันโควิด  (อ่าน 133 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Shopd2

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11951
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด


เกิดเหตุวุ่นวายที่เมืองแฟรงคลิน รัฐเทนเนสซี สหรัฐฯ เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังคณะกรรมการด้านการศึกษาวิลเลียมสัน เคาน์ตี ลงมติกลับมาบังคับทุกบุคคลในระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานตั้งแต่เกรด 1-12 ในนั้นรวมถึงครู ผู้บริหาร และนักเรียนกลับมาสวมหน้ากากป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ท่ามกลางเสียงคัดค้านของบรรดาผู้ปกครองและคนอื่นๆ

บรรดาผู้ปกครองของเด็กๆ ในเขตการศึกษาวิลเลียมสัน เคาน์ตี และชาวบ้านในรัฐเทนเนสซี ที่คัดค้านมาตรการบังคับสวมหน้ากาก พากันตะโกนขู่และด่าทอคณะกรรมการด้านการศึกษา ทั้งระหว่างและหลังการประชุมในประเด็นโต้เถียงดังกล่าว ตามรายงานข่าวของนิวยอร์กโพสต์

รายงานข่าวของเอ็มเอสเอ็นบีซีระบุว่า การประชุมครั้งนี้กินเวลานานถึง 4 ชั่วโมง ระหว่างนั้น 2 กลุ่มที่เห็นต่างกันได้โต้เถียงกันอย่างเผ็ดร้อน ส่วนคณะกรรมการด้านการศึกษาก็รับฟังความเห็นจากทั้งฝ่ายสนับสนุนและคัดค้านบังคับสวมหน้ากาก ซึ่งสุดท้ายแล้วทางคณะกรรมการด้านการศึกษาก็ลงมติกลับมาบังคับทุกบุคคลในระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานสวมหน้ากากป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19

"ความวุ่นวายเกิดขึ้นเมื่อคืนวันอังคาร (10 ส.ค.) ในเมืองแฟรงคลิน ตอนคณะกรรมการด้านการศึกษาของวิลเลียมสัน เคาน์ตี ลงมติเห็นชอบบังคับสวมหน้ากากสำหรับโรงเรียนชั้นประถมศึกษา เนื่องจากขณะเดียวกันนั้นมีพวกผู้ประท้วงรวมตัวกันอยู่ด้านนอก" นิวยอร์กโพสต์ระบุอ้างอิงรายงานของสื่อมวลชนท้องถิ่น



นิวยอร์กโพสต์รายงานว่า ระหว่างการโต้เถียงก่อนลงมติเห็นชอบมาตรการนี้ ผู้ปกครองตนเองรายหนึ่งที่เรียกตัวเองว่าอดีตนาวิกโยธิน ดาเนียล จอห์นแดน บอกกับคณะกรรมการว่าเขา ผู้ปกครองคนอื่นๆ และชาวบ้านจะไล่ล่าสมาชิกคณะกรรมการในแนวทางที่ไม่ใช้ความรุนแรง "การกระทำต่างๆ มีผลลัพธ์ตามมาเสมอ หากคุณเลือกโหวตให้สิ่งนี้ เราจะไล่ล่าคุณ ในแนวทางที่ไม่ใช้ความรุนแรง" จอร์แดน กล่าว

ผู้ปกครองคนอื่นๆ ขู่ฟ้องเขตการศึกษาต่อมาตรการนี้ โดยบอกกับคณะกรรมการว่า "แล้วเจอกันในศาล" และเชื่อว่าคำสั่งบังคับสวมหน้ากากจะถูกตีตกในการยื่นคัดค้านทางกฎหมาย นอกจากนี้แล้วหลายคนได้เน้นย้ำว่าคณะกรรมการการศึกษามาจากการเลือกตั้งของชาวบ้าน ดังนั้น ก็จำเป็นต้องฟังเสียงผู้ปกครอง ซึ่งเป็นคนลงคะแนนโหวตให้พวกเขาเข้ามาทำงานบริหารจัดการเขตการศึกษา

อย่างไรก็ตาม มีผู้ปกครองอย่างน้อย 1 คน ซึ่งระบุตัวเองว่าเป็นแพทย์ดูแลผู้ป่วยหนัก แสดงความคิดเห็นสนับสนุนมาตรการบังคับสวมหน้ากาก "ในฐานะกุมารแพทย์ไอซียู เรากำลังเห็นเด็กๆ ที่มีสุขภาพแข็งแรงล้มป่วยจากภาวะการหายใจล้มเหลวและภาวะทางเดินหายใจล้มเหลวเฉียบพลันเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล มากกว่าสายพันธุ์ต่างๆ ก่อนหน้านี้ ในขณะที่เด็กๆ ติดเชื้อกันมากขึ้น" เธอกล่าว "แนวโน้มนี้รังแต่จะแย่ลง หากว่าเราไม่ลงมือในตอนนี้"

ประเด็นโต้เถียงเริ่มร้อนแรงขึ้น จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ต้องเข้าช่วยบรรเทาสถานการณ์ความตึงเครียด ร้องขอให้ผู้เข้าร่วมอยู่ในความสงบ ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่าเจ้าหน้าที่ถึงขั้นต้องพาตัวบุคคลรายหนึ่งออกจากห้องประชุม

กระนั้นก็ตามความวุ่นวายเกิดขึ้นอีกรอบภายนอกอาคารหลังเสร็จสิ้นการประชุม หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานว่า พวกนักเคลื่อนไหวต่อต้านหน้ากาก พากันกรูไปยังลานจอดรถและเผชิญหน้ากับคณะกรรมการด้านการศึกษาบางคนอีกครั้ง "เรารู้ว่าคุณคือใคร" ผู้ปกครองรายหนึ่งพูดกับสมาชิกคณะกรรมการด้านการศึกษา "คุณสามารถออกไปอย่างอิสระในตอนนี้ แตเราจะหาตัวคุณเจอ"

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (ซีดีซี) ออกคำแนะนำสวมหน้ากากยามอยู่ในโรงเรียนเมื่อช่วงปลายเดือนที่แล้ว บ่งชี้ว่าสืบเนื่องจากตัวกลายพันธุ์เดลตาของโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดทั่วประเทศ ประชาชนทั้งหลายซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่พบเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ควรสวมหน้ากากยามอยู่ในร่ม นอกจากนี้แล้วซีดีซียังแนะนำให้ทุกคนในระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานตั้งแต่เกรด 1-12 สวมหน้ากาก โดยไม่พิจารณาว่าคนเหล่านั้นฉีดวัคซีนแล้วหรือไม่

(ที่มา : เอ็มเอสเอ็นบีซี/นิวยอร์กโพสต์)