͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: ราคาน้ำมันดิบระยะสั้นลดลง เหตุกังวลโควิด-19 กดดันการใช้  (อ่าน 155 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Beer625

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 13322
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด


หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP เปิดเผยข้อมูลทิศทางราคาน้ำมันดิบระยะสั้นปรับลด หลังกังวลความต้องการใช้น้ำมันอาจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ จากผลกระทบของโควิด-19 โดยมีปัจจัยที่ส่งผมมาจาก ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงเล็กน้อย หลังสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในหลายประเทศ อาทิเช่น จีน ส่งผลให้ IEA หวยออนไลน์ ปรับลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันในครึ่งปีหลังลง 0.55 ล้านบาร์เรลต่อวันจากการคาดการณ์ในรายงานฉบับก่อนหน้า โดยทั้งปี 2564 ความต้องการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้นราว 5.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลง 0.1 ล้านบาร์เรลต่อวันจากรายงานฉบับก่อนหน้า

รวมถึง สหรัฐฯ ออกมาเรียกร้องให้กลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในระยะยาวเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและเพื่อเป็นการควบคุมราคาน้ำมันเบนซินในประเทศสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ กลุ่มผู้ผลิตจะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 1 ก.ย.



นอกจากนี้ ในรายงานประจำเดือน ส.ค. กลุ่มโอเปกคาดความต้องการใช้น้ำมันในปี 2564 จะเพิ่มขึ้นที่ระดับเดิมที่ 5.94 ล้านบาร์เรลต่อวัน แม้ว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะเพิ่มขึ้น แต่เศรษฐกิจโลกยังคงเติบโตขึ้นต่อเนื่อง

โดยปิดตลาดเมื่อวันที่ 12 ส.ค.2564 ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อยู่ที่ 69.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 0.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 71.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 0.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบดูไบ อยู่ที่ 70.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล


ส่วนสถานการณ์ราคาน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ พบว่า ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากการส่งออกจากเอเชียเหนือที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงหนุนจากตลาดน้ำมันเบนซินสหรัฐฯ ที่ยังปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลงกว่า 1.1 ล้านบาร์เรลจากสัปดาห์ก่อนหน้า

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากการส่งออกจากเอเชียเหนือที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่อุปสงค์ชะลอตัวลงตามฤดูกาล นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์

โดยปิดตลาดเมื่อวันที่ 12 ส.ค.2564 ราคาน้ำมันเบนซิน อยู่ที่ 83.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดีเซล อยู่ที่ 74.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล