เสธ.แมว จวก ผู้นำเฮงซวย น่าสมเพชหลังทำ จดหมายถึงเจ้าสัว สร้างวิกฤติใหม่ซ้อนวิกฤติเดิม ปลุกฝ่ายค้านร่วมเปลี่ยนแปลง ถามงบกลาง 5แสนล้านหายไปไหนหมด
วันที่ 19 เม.ย. พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วิกฤติ
โควิด-19 ทำทุกฝ่ายหดหู่ใจที่ต้องมาเห็นภาพประชาชนเข้าแถวรอรับอาหารและเงินบริจาค บางคนยอมทำผิดติดคุก ยอมเจ็บป่วย เพื่อจะได้มีข้าวกิน มันสะท้อนความสิ้นหวังในชีวิต ทั้งที่ประเทศนี้เป็นอู่ข้าวอู่น้ำครัวโลก
พล.ท.ภราดร กล่าวต่อว่า จากวิกฤติสาธารณสุขลุกลามมาสู่วิกฤติเศรษฐกิจ และพึงระวังว่าจะลุกลามน่าสะพรึงกลัวมาเป็นวิกฤติสังคม เกิดการฉกชิงวิ่งราวปล้นทรัพย์ ก่อความไม่สงบจนบานปลายสู่การจลาจลใหญ่เกินวิสัยที่รัฐบาลจะควบคุมสถานการณ์ได้ การแก้ไขวิกฤติโควิดนี้เพียงแค่ยึดหลักประชาธิปไตยให้ประชาชนมามีส่วนร่วม รัฐบาลก็จะได้รับรู้ความทุกข์ยากและข้อเสนอแนะการแก้ไขปัญหาจากพวกเขาโดยผ่านกลไกสภาฯ ปัญหาก็จะถูกแก้ไขได้อย่างแม่นตรง
พล.ท.ภราดร กล่าวอีกว่า แต่การที่ไม่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ยึดตัวกูเป็นใหญ่ของผู้นำสืบทอดอำนาจ เพราะมีรากเหง้ามาจากเผด็จการ ยิ่งมาแสดงความน่าสมเพชประกาศว่าจะทำจดหมายเปิดผนึกถึงเหล่าเจ้าสัวให้มาเสียสละช่วยแก้วิกฤติของประเทศ เลยถูกสังคมออนไลน์ถล่มเละว่าเป็นรัฐบาลขอทาน ถูกประจานตัวตนว่าเป็นคนที่ไม่มีภาวะผู้นำ ประชาชนไม่ศรัทธา สร้างวิกฤติใหม่ซ้อนวิกฤติเดิม
"จนถึงเวลานี้ก็ยังตอบสังคมไม่ได้ว่าเงินงบกลาง 5 แสนล้านบาทที่เพิ่งผ่านสภามามันหายไปไหนหมด ความฉ้อฉลการจัดหาหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ทางการแพทย์จนขาดแคลน มีต้นตอมาจากใครก็ยังทำความกระจ่างไม่ได้ เงินยังชีพฉุกเฉิน 5 พันบาทก็พูดกลับกลอกไปมา พฤติการณ์ภาวะผู้นำเฮงซวยไม่น่าไว้วางใจแบบนี้ ไม่มีใครเขาอยากมาร่วมมือด้วยหรอก จะหวังให้คนแบบนี้แสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่งก็คงเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้ายังขืนปล่อยให้ลอยนวลเป็นผู้นำอยู่ก็ล่อแหลม ที่จะเป็นเงื่อนไขพาประเทศสู่กลียุค พรรคร่วมฝ่ายค้านจำต้องเป็นหัวหอกการนำสู่การเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างทางเลือกใหม่ให้แก่ประชาชน" พล.ท.ภราดร กล่าว
