ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากในกรุงโตเกียวเดินทางมายังสถานีรถไฟ ชินากาวะ เพื่อโดยสารรถไฟไปทำงาน แม้จะมีการประกาศภาวะฉุกเฉิน เมื่อ 16 เม.ย.
รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศแล้ว หลังการระบาดของ
โควิด-19 เลวร้ายลง โดยนายกรัฐมนตรีเผย เตรียมแจกเงินให้ประชาชนคนละ 30,000 บาท
สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศแล้วในวันพฤหัสบดีที่ 16 เม.ย. 2563 จากเดิมที่ประกาศใน 7 จังหวัดรวมกรุงโตเกียวเท่านั้น หลังสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศเลวร้ายลงมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 9,000 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว 178 ศพ และรักษาหายเพียง 901 คน โดยจะบังคับใช้มาตรการไปจนถึงวันที่ 6 พ.ค.
การประกาศภาวะฉุกเฉินของญี่ปุ่น จะทำให้รัฐบาลในแต่ละจังหวัดสามารถเรียกร้องให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านได้ แต่จะไม่มีมาตรการลงโทษผู้ฝ่าฝืนในกรณีส่วนใหญ่ หรือการบังคับทางกฎหมาย
นายกรัฐมนตรี ชินโสะ อาเบะ ร่วมประชุมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์
นายกรัฐมนตรี ชินโสะ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น กล่าวระหว่างการประชุมวาระพิเศษกับผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ว่า พื้นที่ที่มีการประกาศภาวะฉุกเฉิน ควรขยายจาก 7 จังหวัดเป็น ทุกจังหวัดทั่วประเทศ และร้องขอให้ประชาชนลดการพบปะกับคนอื่นให้ได้อย่างน้อย 80% เพื่อช่วยลดการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 ขณะที่ธุรกิจต่างๆ ให้เพิ่มการทำงานทางไกลของพนักงานเป็นอย่างน้อย 70% ด้วย
ขณะที่สำนักข่าว นิปปอน ของญี่ปุ่นระบุด้วยว่า นายอาเบะเตรียมให้รัฐบาลแจกเงินสดแก่ประชาชนทุกคน คนละ 100,000 เยน (ราว 30,340 บาท) โดยสั่งให้พรรครัฐบาล ‘เสรีประชาธิปไตย’ พิจารณาแก้ไขร่างงบประมาณพิเศษสำหรับปีงบประมาณ 2020 ไม่กี่วันก่อนที่เขาจะเสนอร่างฯ ให้รัฐสภาพิจารณา และจะไม่มีการจำกัดรายได้สำหรับการแจกเงินดังกล่าว เพื่อปกป้องเศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของไวรัส อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวระบุว่า รัฐบาลอาจยกเลิกแผนให้เงินสด 300,000 เยนแก่ครัวเรือนที่มีปัญหาทางการเงินออกไป
ด้านนายยาสุโตชิ นิชิมุระ รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบด้านมาตรการฉุกเฉินของญี่ปุ่น กล่าวว่า การขยายภาวะฉุกเฉินให้ครอบคลุมทั้ง 47 จังหวัดทั่วประเทศเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องทำก่อนจะถึงช่วง ‘โกลเดน วีค’ ซึ่งเป็นช่วงที่มีวันหยุดราชการถึง 4 วันต่อเนื่องกันภายในสัปดาห์เดียว โดยภาวะฉุกเฉินจะถูกบังคับใช้จนถึง 6 พ.ค. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของโกลเดน วีค
เจ้าหน้าที่ศาลาว่าการเมืองฟุคุยะ ในจังหวัดไซตามะ ใช้พลาสติกกั้นโต๊ะทำงานเพื่อป้องกันไวรัสแพร่กระจาย
การประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศของญี่ปุ่นเกิดขึ้นในขณะที่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อนายอาเบะเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ โดยผลสำรวจความคิดเห็นชาวญี่ปุ่นชี้ว่า คน 75% คิดว่านายกรัฐมนตรีผู้นี้ใช้เวลานานเกินไปกว่าจะประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงโตเกียว โดยต้องรอให้ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาจึงจะประกาศ
หลังจากภาวะฉุกเฉินถูกใช้ใน 7 จังหวัดเมื่อ 8 เม.ย. ผู้ว่าราชการจังหวัดอื่นๆ ของญี่ปุ่นก็ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินในจังหวัดของพวกเขาด้วย เรื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเจ้าหน้าที่การแพทย์ต้องรับมือกับคนไข้จำนวนมาก นายกเทศมนตรีเมืองโอซากา ถึงกับขอรับบริจาคเสื้อกันฝนจากประชาชน เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ใช้เป็นอุปกรณ์ป้องกัน (PPE) เนื่องจากอุปกรณ์ขาดแคลน
โรงยิมแห่งหนึ่งในจังหวัดคานากาวะ ถูกเปลี่ยนให้เห็นที่พักชั่วคราวสำหรับผู้ที่ไม่มีกำลังพอจะเช่าอพาร์ตเมนต์ในช่วงวิกฤติโควิด-19
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายแรกตั้งแต่เมื่อ 3 เดือนก่อน แต่จนถึงตอนนี้พวกเขาทำการตรวจโรคกับประชาชนเพียงจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น ต่างจากเกาหลีใต้ที่ควบคุมการระบาดได้เกือบทั้งหมดด้วยการตรวจประชาชนจำนวนมาก โดยรัฐบาลระบุว่า การตรวจเป็นวงกว้างเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรณ์ และกลัวว่าโรคพยาบาลจะเต็มไปด้วยผู้ป่วยที่ผลตรวจเป็นบวก แต่มีอาการเพียงเล็กน้อย
นอกจากนี้ การตรวจโรคของญี่ปุ่นยังกระทำที่ศูนย์สถานพยาบาลระดับท้องถิ่น ไม่ใช่ระดับประเทศ สถานพยาบาลท้องถิ่นบางแห่งก็มีเครื่องมือไม่พร้อมตรวจผู้คนเป็นจำนวนมากด้วย