͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: เงินบริจาคหมดก็มาเร่ร่อนใหม่ อวสาน ยายลูกชิ้น ตะลึง!ถลุงหมดใน 2 เดือน ต้องจับเซ็นสัญญา  (อ่าน 477 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Clayton

  • บุคคลทั่วไป
ยายลูกชิ้น วันที่ 10 เม.ย. นางสุชาดา มีสงฆ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนนทบุรี มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กลุ่มการพัฒนาสังคมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและพิจารณาให้ความช่วยเหลือ กรณี สื่อสังคมออนไลน์ นำเสนอข่าวหญิงชรานอนเร่ร่อนบริเวณข้างโรงเรียนบ้านหนองเพรางาย หมู่ 1 ต.หนองเพรางาย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี

จากการลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริงร่วมกับเจ้าหน้าที่ อบต.หนองเพรางาน เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมฯ เจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วยประธาน อพม. อำเภอไทรน้อย ผู้นำชุมชนหมู่ที่ 1 ทราบว่า บุคคลคนดังกล่าวชื่อ น.ส.ลูกชิ้น (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 78 ปี ประกอบอาชีพเก็บของเก่าขาย รายได้ไม่แน่นอน มีบุตรบุญธรรมเป็นชาย 1 คน อายุ 48 ปี ประกอบอาชีพเก็บของเก่าขาย

สาเหตุที่ออกมานอนเร่ร่อนบริเวณดังกล่าวเนื่องจากทั้ง 2 คนมีพฤติกรรมออกมานอนเร่ร่อนตามสถานที่สาธารณะ ทั้งนี้ในปี พ.ศ.2561 เคยได้รับเงินบริจาคผ่านทางบัญชี น.ส.ลูกชิ้น เป็นเงินกว่า 70,000 บาท หลังได้รับบริจาคจากคนที่มีจิตใจเมตตา สงสาร ทั้ง 2 แม่ลูกก็มีพฤติกรรมใช้เงินฟุ่มเฟือยเกินตัว จนเมื่อเงินที่ได้รับบริจาคมาหมดลง ทั้ง 2 คนก็จะหันมาเร่รอนออกมาสร้างเพิงพักในที่สาธารณะ เพื่อให้ผู้ที่พบเห็นเกิดความสงสาร หยิบยื่นให้การช่วยเหลือ ทั้งเงินและเครื่องอุปโภคบริโภค

โดยในวันนี้หลังลงพื้นตรวจสอบข้อเท็จริงแล้ว ทาง พมจ.นนทบุรี ได้ข้อสรุปแนวทางการให้ความช่วยเหลือของหน่วยงานที่ลงพื้นที่ร่วมกัน ดังนี้ เจ้าหน้าที่ อบต.หนองเพรางาย จะได้ประสานเจ้าหน้าที่ รพ.สต.ในพื้นที่ตรวจสุขภาพของบุคคลทั้ง 2 เพื่อเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และตรวจสุขภาพทั่วไป รวมทั้งจัดหาที่พักอาศัย ด้วยการเช่าบ้านพักเลขที่ 33/12 หมู่ 7 ต.หนองเพรางาย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ในอัตราค่าเช่าเดือนละ 1,000 บาท ให้กับแม่ลูกทั้ง 2 คน โดยมีผู้มีจิตศรัทธาจ่ายค่าเช่าบ้านเรียบร้อยแล้ว

พร้อมกับทำหนังสือบันทึกไว้เป็นหลักฐานว่าหากทั้ง 2 คน มีพฤติกรรมออกไปเร่ร่อนในที่สาธารณะ พฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายมีความผิดตาม พรบ.คนไร้ที่พึ่ง พ.ศ.2557 ในทันที และจะถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย ซึ่งทั้ง 2 คนยินยอมที่จะปฏิบัติตามคำสั่ง และรับปากว่าจะไม่ออกไปเร่ร่อนเพื่อขอรับเงินบริจาคจากชาวบ้านอีก พร้อมกับเซ็นหนังสือสัญญากับทาง พมจ.นนทบุรี ไว้เป็นหลักฐาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตวรจสมุดบัญชีพบว่า ทั้ง 2 คนเบิกเงินที่บริจาคมาใช้หมดเกลี้ยงภายใน 2 เดือน และหลังจากนั้รนก็มีเงินบริจาคเข้ามาไม่มากแค่หลักพันบาท ก็ถูกเบิกออกมาใช้จนหมดเช่นกัน จนช่วงปีหลังไม่มีคนบริจาคเหลือแต่เพียงเงินเข้าบัญชีเดือนละ 700 บาท ก็ถูกเบิกออกมาใช้ กระทั่งเจ้าหน้าที่ พมจ.นนทบุรี เข้ามาจัดการเรื่องดังกล่าว