วันนี้ ( 9 เม.ย.63)ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วย นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มร.แจ็คกี้ ชาง (Jackie Chang) ประธานบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และศาสตราจารย์ ดร.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) แถลงความร่วมมือในการพัฒนาชุดอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ในช่วงวิกฤตโรคโควิด-19 ทั้งนี้ บ. เดลต้า และ บีโอไอ ได้มอบระบบพัดลมปลอดเชื้อ จำนวน 10,500 เครื่อง ให้กับกระทรวงอว. เพื่อส่งมอบให้กับมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราชโดยคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย เพื่อดำเนินการนำไปประกอบการผลิตชุดปลอดเชื้อและหน้ากากป้องกันเชื้อโรคความดันบวกให้บุคลากรทางการแพทย์ต่อไป
ดร.สุวิทย์ กล่าวว่า กระทรวง อว. มีนโยบายเตรียมความพร้อมให้กับประเทศ เพื่อรับมือกับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 โดยความร่วมมือกับหลายภาคส่วน ทั้งหน่วยงานในสังกัด มหาวิทยาลัย ภาคเอกชน และเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งนโยบายสำคัญคือการสนับสนุนการพัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์คุณภาพสูงให้เพียงพอกับความต้องการของบุคลากรทางการแพทย์ โดยได้มอบให้สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) บริหารจัดการงานวิจัยและนวัตกรรมที่เป็นโครงการเร่งด่วนตามความต้องการของประเทศที่ใช้ในการควบคุมป้องกันและรักษาโรคโควิด-19 ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เช่น การวิจัยและพัฒนาหน้ากากอนามัย N95 เพื่อใช้ทางการแพทย์ ชุดป้องกันส่วนบุคคลของบุคลากรการแพทย์ (Personal Protective Equipment หรือ PPE) เช่น หน้ากากป้องกันเชื้อโรคแบบคลุมศีรษะชนิดมีพัดลมพร้อมชุดกรองอากาศประสิทธิภาพสูง (PAPR) เสื้อกาวน์ป้องกันการติดเชื้อ (Surgical gown) และชุดป้องกันร่างกาย (Safety cover all) เครื่องช่วยหายใจ (Ventilators/Respirators) ระบบห้องและการปรับอากาศแรงดันลบ (Negative-pressure Facilities) และโรงพยาบาลสนาม
ซึ่งล่าสุดทีมวิจัยและนวัตกรรมของบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โดยการสนับสนุนของบีโอไอ ได้พัฒนา “ระบบพัดลมปลอดเชื้อคุณภาพสูง” (DC Fan) ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญของชุดปลอดเชื้อความดันบวกและหน้ากากป้องกันเชื้อโรคแบบคลุมศีรษะพร้อมชุดกรองอากาศประสิทธิภาพสูง (Powered Air-Purifying Respirators หรือ PAPR) ที่พัฒนาขึ้นโดยสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล โดยพัดลมจะดูดอากาศจากภายนอกผ่านตัวกรองอากาศเพื่อเปลี่ยนให้เป็นอากาศที่สะอาดแล้วจ่ายลมให้กับหน้ากากป้องกันเชื้อโรคความดันบวกที่บุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยต้องใช้
“ผลงานนี้ ถือเป็นตัวอย่างของความร่วมมือของทุกภาคส่วนเพื่อคนไทย เป็นการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส เกิดการพัฒนาองค์ความรู้ และสร้างอุปกรณ์ที่ถือเป็นเครื่องมือหลักของบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งในสถานการณ์เช่นนี้หน้ากากป้องกันเชื้อโรคความดันบวกพร้อมชุดกรองอากาศประสิทธิภาพสูง (PAPR) นี้จะทำให้บุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องปฏิบัติงานใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีความปลอดภัย และเกิดความมั่นใจในการดูแลผู้ป่วย” ดร.สุวิทย์ กล่าว.