วันที่ 8 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผวจ.สุพรรณบุรี ได้มีคำสั่งให้ปิดโรงแรม ที่พัก รีสอร์ต หรือสถานบริการที่คล้ายคลึงกันแบบเป็นรายวัน เนื่องจากที่ผ่านมาจังหวัดสุพรรณบุรีถูกใช้เป็นสถานที่พักจากประชาชนที่เดินทางจากจังหวัดต่างๆ ซึ่งไม่ได้รังเกียจ แต่ต้องควบคุมเพื่อให้มีการตรวจสอบผู้เข้าพัก เพราะที่ผ่านมาไม่รู้ว่ามีใครเข้ามาบ้าง
นายนิมิต กล่าวว่า เพื่อให้การดูแลพี่น้องชาวสุพรรณบุรี และเป็นการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ตนจึงมีคำสั่งให้ปิดสถานที่ดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน แต่ถ้าต้องการเปิดก็สามารถทำได้ แต่มีข้อบังคับโดยให้ไปรายงานตัว ขออนุญาตจากทางนายอำเภอ ในสถานที่ตั้งของสถานประกอบการ โดยทุกวันต้องรายงานผู้เข้าพักให้กับเจ้าหน้าที่ทราบ เพื่อนำเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสุขภาพของผู้เข้าพัก ซึ่งเราก็เข้าใจว่าท่านมาพักหลังจากกลับมาจากต่างจังหวัด แล้วไม่อยากไปกักตัวที่บ้าน จึงมาใช้สถานที่ดังกล่าวกักตัว แต่เราก็ห่วงพี่น้องประชาชนชาวสุพรรณบุรีของเราเช่นกัน ดังนั้นเรามาร่วมมือกันในการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อที่จะได้ก้าวข้ามผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน
นอกจากนี้ จากกรณีพบ
ผู้ป่วยไวรัสโควิด-19 กลับจากประเทศอังกฤษ เป็นผู้ป่วยยืนยันจากนครปฐม 1 ราย แต่มีการเดินทางเข้ามา จ.สุพรรณบุรี ในหลายพื้นที่ จากการสอบสวนของหน่วยสอบสวนโรค ได้ไทม์ไลน์ระบุว่า เป็นชายไทยอายุ 48 ปี ภูมิลำเนาอยู่หมู่ 1 ต.มะขามล้ม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี หลังเดินทางกลับจากประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 24-25 มี.ค. ได้เดินทางเข้าบ้านพักที่ อ.สามพราน จ.นครปฐม จากนั้นวันที่ 26 มี.ค. เดินทางไปที่บ้านญาติ ต.บางพลับ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี และกลับบ้านพักที่หมู่ 1 ต.มะขามล้ม อ.บางปลาม้า
วันที่ 27 มี.ค. นำรถไปซ่อมร้านซ่อมรถในหมู่บ้าน วันที่ 27 มี.ค.-6 เม.ย. พักที่บ้านพักหมู่ 1 ต.มะขามล้ม อ.บางปลาม้า ซื้อก๋วยเตี๋ยวที่ร้านบริเวณสี่แยกมะขามล้มกลับไปรับประทานที่บ้านเป็นประจำ ในวันที่ 3-5 เม.ย. ไปพบแพทย์ที่คลินิกแห่งหนึ่งในตัวเมืองสุพรรณบุรี และวันที่ 7 เม.ย. อาการไม่ดีขึ้น จึงได้ไปพบแพทย์ ที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง ใน จ.นครปฐม และส่งตัวเข้ารักษาต่อ รพ.ของรัฐ ใน จ.นครปฐม ต่อมาได้รับการรายงานผลยืนยันพบเชื้อไวรัสโควิด-19
กรณีนี้ นายนิมิต ยังได้สั่งให้อำเภอบางปลาม้าตรวจสอบ หลังจากการสอบสวนพบว่ามีผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ไม่รายงานให้เจ้าหน้าที่ทราบ หลังมีคนที่กลับมาจากต่างประเทศ มาจากจังหวัดต่างๆ แถมยังไปร่วมวงดื่มสุรากับผู้ป่วยที่กลับมาจากประเทศอังกฤษรายนี้อีกด้วย จึงได้สั่งการให้นายอำเภอดำเนินการทางวินัยกับผู้ใหญ่บ้านรายดังกล่าว และทำการกักตัว พร้อมกับขอร้องหากพี่น้องประชาชนท่านใดทราบว่าผู้ป่วยรายนี้มีการใกล้ชิดกับผู้ใด หรือมีผู้ใดมีความเสี่ยงสูง ให้รีบแจ้งหน่วยราชการทราบโดยทันที
"อยากทำความเข้าใจกับพี่น้องชาวจังหวัดสุพรรณบุรี ว่าเวลานี้เป็นเวลาที่เราต้องมีความสามัคคี เป็นเวลาที่เราต้องร่วมแรงร่วมใจ ช่วยกันผลักดันวิกฤติที่กำลังเกิดขึ้นให้พ้นไปจากพวกเราโดยเร็ว ซึ่งการให้ความร่วมมือ กับทางราชการด้วยการดูแลตัวเอง ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ลดกิจกรรมที่รวมกลุ่มเยอะๆ ลดการมีปฏิสัมพันธ์ในจุดเสี่ยง และอย่ารังเกียจผู้มีความเสี่ยง เราต้องให้กำลังใจ ร่วมใจก้าวพ้นไปด้วยกัน".