͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: เปิดผลพิสูจน์เจ้ามั่งคั่ง ตายข้างหลังนำไปฝากเลี้ยง  (อ่าน 81 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Chanapot

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 14700
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
เปิดผลชันสูตร “เจ้าร่ำรวย” สุนัขจำพวกปั๊ก หลังนำไปฝากเลี้ยงที่สถานที่รับเลี้ยงแห่งหนึ่งใน จังหวัดจังหวัดนนทบุรี ได้เพียง 1 ชั่วโมงแล้วตาย ลั่น เอาการถึงที่สุด

จากกรณี นายพัฒน์ธนฉัตร เครื่องจันทร์ อายุ 36 ปี บุรุษพยาบาล นำหมาพันธ์ุปั๊ก เพศผู้ ชื่อ “เจ้าร่ำรวย” อายุ 3 ปี ไปฝากเลี้ยงที่สถานรับเลี้ยงแห่งหนึ่ง อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี แล้วเสียชีวิตลงภายหลังฝากเลี้ยงได้เพียงแค่ 1 ชั่วโมง ถัดมานายพัฒน์ธนฉัตรได้เข้าแจ้งเหตุฟ้องกับสถานที่รับเลี้ยงดังที่กล่าวมาแล้ว กับเจ้าหน้าที่สอบสวน สภ.ชัยพฤกษ์ โดยตำรวจได้สั่งอายัดร่างหมาเพื่อนำส่งพิสูจน์หามูลเหตุการตายที่แท้จริง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นเปิดผลชันสูตร "เจ้าร่ำรวย" สุนัขชนิดปั๊ก หลังนำไปฝากเลี้ยงที่สถานรับเลี้ยงแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี


ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 มี.ค.2566 นายพัฒน์ธนฉัตร ได้เดินทางไปพบพนักงานที่มีหน้าที่สอบสวน เพื่อปากคำเพิ่มพร้อมทั้งนำผลของการชันสูตรของหน่วยชันสูตรโรคสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ซึ่งตรวจพิสูจน์กล่าวว่า หมาตัวดังที่ได้กล่าวมาแล้วได้เสียชีวิตลงจากสภาวะหัวใจรวมทั้งเส้นโลหิตล้มเหลว โดยเจอสภาวะขยายของหลอดเลือดทั้งร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนปลาย เป็นต้นว่า ผิวหนัง ซึ่งน่าจะเกิดจากภาวะอุณหภูมิในรางกายสูงขึ้นยิ่งกว่าปกติรวมทั้งพบภาวะไตวายรุนแรงหรือสภาวะฮีทสโตรก


นายพัฒน์ธนฉัตร บอกว่า วันนี้ตนได้นำผลชันสูตรมามอบให้ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์เพื่อการันตีปัจจัยการตายของหมาตนว่ามาจากความประมาทและขาดความระมัดระวังของเจ้าหน้าที่สถานที่รับเลี้ยง ที่ปล่อยให้สุนัขตนวิ่งเล่นเป็นเวลานาน ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวจนทำให้หมาตนกำเนิดสถานการณ์ฮีทสโตรกและก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตนกับสถานรับเลี้ยงแห่งนี้มิได้มีเรื่องมีราวเคืองโกรธอะไรกันมาก่อน ซึ่งตนยังเคยนำหมามาฝากเลี้ยงไว้ด้วยความวางใจนายพัฒน์ธนฉัตร กล่าวต่อว่า เขาจะมาอ้างถึงว่ามองเห็นหมาของตนเองแข็งแรง เลยปล่อยให้หมาวิ่งเล่นจนกระทั่งเหนื่อยหอบไปนอนข้างอ่างน้ำและยังปลดปล่อยให้วิ่งเล่นต่อในรอบ 2 อีก โดยไม่พินิจลักษณะของสุนัขเลย พอเพียงหมาตนตายไปและจากนั้นก็ไม่แสดงความรับผิดชอบอะไร บอกแต่ว่าจ่ายค่าสุนัขให้ได้เพียง 20,000 บาท พร้อมเรียกเอาใบเสร็จค่าหมานายพัฒน์ธนฉัตร กล่าวอีกว่า ซึ่งถ้ามีการแสดงความรับผิดชอบหรือแสดงความกังวลออกมาบ้าง พากเพียรคุยหาจุดกึ่งกลางกันในการเจรจา ตนก็คงจะไม่มาแจ้งความฟ้องร้องอย่างงี้ แต่ในเมื่อวันนี้ตนต่อสู้มาถึงขั้นนี้แล้ว อีกทั้งจำต้องจ่ายค่าจัดงานศพ จ่ายค่าตรวจผลชันสูตรแล้ว ตนก็จะฟ้องร้องให้ถึงที่สุดถัดไป เดี๋ยวนี้เมื่อตนเห็นภาพเจ้าร่ำรวยสุนัขของตนเองที่เสียไป ตนก็ยังรับมิได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น


นายพัฒน์ธนฉัตร บอกว่า วันนี้ตนจะไม่ต้องต่อสู้เรียกร้องความเที่ยงธรรมให้กับสุนัขตนผู้เดียวแล้ว หลังได้รับการประสานติดต่อกับทาง วอชด็อก ไทยแลนด์ ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือให้คำปรึกษาคดี โดยมีกลุ่มข้างข้อบังคับที่มีความสามารถโดยตรงเข้ามามองแช่วยเหลือ ตนต้องขอบพระคุณทางวอชด็อกไทยแลนด์ที่ให้ความใส่ใจกับคดีของตน ไม่มองแค่ว่าหมาเป็นเพียงแต่สิ่งของอย่างหนึ่ง โดยทางวอชด็อกได้ประสานกับตำรวจเพื่อติดตามคดีด้วย

นายพัฒน์ธนฉัตร กล่าวเพราะว่า พื้นฐานได้แจ้งเหตุฟ้องร้องคดีกับทางศูนย์รับเลี้ยงหมาแห่งนี้ในข้อหาทรมานสัตว์ด้วยการนำสัตว์ไปไว้ในที่ที่ไม่มีอากาศหายใจ กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดอาการฮีทสโตรก ตามคำตัดสินของสัตวแพทย์ เนื่องมาจากทางผู้ประกอบการเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงมีหน้าที่ที่จำต้องทราบว่าความประพฤติต่อสัตว์แบบใดนับเป็นการข่มเหงตามกฎหมาย จะอ้างถึงว่าไม่รู้เรื่องไม่ได้ เหมือนกับประชากรซึ่งมีหน้าที่จำต้องรู้กฎหมาย จะกล่าวถึงว่าไม่เคยทราบไม่ได้เช่นเดียวกัน


นายพัฒน์ธนฉัตร กล่าวว่ากล่าว นอกจากนั้น ยังได้ฟ้องร้องในข้อกล่าวหาทำให้เสียเงินเสียทองเพิ่มเติมอีก 1 ข้อหา เพื่อใช้สิทธิสำหรับการเรียกร้องค่าเสียหายตามมูลค่าของจิตใจจากการสูญเสียสัตว์อันเป็นสุดที่รักและก็มีค่า เช่นคนที่อาศัยอยู่ในครอบครัวกับทางพนักงานสอบสวนแล้ว

ด้าน ตำรวจจึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานทั้งผอง เพื่อจัดเตรียมออกหมายเรียกให้ทางศูนย์รับเลี้ยงหมาที่นี้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป
นนทบุรี
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13268/
คำค้นหา : มูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์