กรุงศรีคาด
เงินบาทซื้อขายในกรอบ 31.85-32.35 จับตาวิกฤติยูเครน
กลุ่มงานโกล.มาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 31.85-32.35 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 32.18 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในกรอบ 32.09-32.70 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างสัปดาห์เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 8 เดือนท่ามกลางกระแสเงินทุนไหลเข้าและราคาทองคำที่พุ่งขึ้น เงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินยูโรแต่อ่อนค่าเทียบกับเยนและฟรังก์สวิสในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวอย่างผันผวนหลังรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เมื่อวันที่ 25-26 มกราคม ระบุว่าเจ้าหน้าที่เฟดเห็นตรงกันเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อขณะที่การจ้างงานแข็งแกร่ง แต่การตัดสินใจด้านนโยบายจะขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ตัวเลขเศรษฐกิจในการประชุมแต่ละครั้งไป โดยเฟดไม่ได้มีความเห็นแบบแข็งกร้าวมากเท่าที่ตลาดเคยกังวลไว้ นอกจากนี้ ตลาดขานรับความหวังที่ว่าสถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครนจะคลายตัวลงช่วงต้นสัปดาห์ แต่แนวโน้มความขัดแย้งปะทุขึ้นอีกครั้งและหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลัง ประธานาธิบดี โจ ไบเดนของสหรัฐฯ กล่าวว่ามีสัญญาณว่ารัสเซียกำลังวางแผนใกล้จะบุกยูเครน ทางด้านรัสเซียอ้างว่าผู้นำสหรัฐฯ กระตุ้นความขัดแย้ง และรัสเซียระบุว่ารัฐบาลสหรัฐฯ เพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องด้านความมั่นคงของรัสเซีย ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย 11,087 ล้านบาท และ 7,327 ล้านบาท ตามลำดับ
กลุ่มงานโกล.มาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า นักลงทุนจะติดตามความเสี่ยงด้านรัฐภูมิศาสตร์จากประเด็นยูเครนและข้อขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตกซึ่งจะส่งผลต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ตลาดหุ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร โดยกระแสข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าวจะเพิ่มความผันผวนให้กับตลาดการเงินในระยะสั้น นอกจากนี้ นักลงทุนจะให้ความสนใจกับข้อมูลการใช้จ่ายบริโภคส่วนบุคคลเดือนมกราคมของสหรัฐฯ ขณะที่สัญญาดอกเบี้ยล่วงหน้าบ่งชี้ว่ามีโอกาสสูงกว่า 80% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 25bp ในการประชุมวันที่ 15-16มีนาคม
สำหรับปัจจัยในประเทศ จีดีพีไตรมาส 4/64 ขยายตัว 1.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยทั้งปี 2564 เติบโต 1.6% ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ ขณะที่ในไตรมาสสุดท้ายของปีเศรษฐกิจได้แรงหนุนจากภาคส่งออก การใช้จ่ายภาครัฐ รวมถึงการบริโภคภาคเอกชน สภาพัฒน์คงประมาณการว่าจีดีพีปีนี้จะขยายตัวในช่วง 3.5-4.5% อนึ่ง กรุงศรีมองว่า โมเมนตัมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะส่งผลบวกต่อค่าเงินบาทอย่างชัดเจนมากขึ้นในระยะยาว อย่างไรก็ดี ในช่วงนี้เงินบาทอาจเผชิญแรงขายทำกำไรหลังจากแข็งค่าอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว