͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวแคบ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนกดดันตลาด  (อ่าน 23 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ deam205

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15570
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวแคบ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนกดดันตลาด

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวแคบในวันนี้ โดยถูกกดดันจากการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนที่ทรุดหนักในเดือนม.ค.

ณ เวลา 21.13 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 16 จุด หรือ 0.05% สู่ระดับ 35,290 จุด

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุดในการซื้อขายวานนี้ โดยปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 3 ขณะที่ได้ปัจจัยบวกจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคาร

ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยในวันนี้ว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐทรุดตัวลงในเดือนม.ค. โดยมีการจ้างงานลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2563 ขณะที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน

ทั้งนี้ ADP เปิดเผยว่า ภาคเอกชนมีการจ้างงานลดลง 301,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง

ภาคบริการมีการจ้างงานลดลง 274,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ขณะที่ภาคการผลิตมีการจ้างงานลดลง 27,000 ตำแหน่ง

ก่อนหน้านี้ ADP เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนพุ่งขึ้น 776,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. จากระดับ 505,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย.

นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนม.ค.ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นเพียง 178,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.9%

ก่อนหน้านี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 199,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 422,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 3.9% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.1%

นอกจากนี้ ตลาดจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยบริษัทมากกว่า 36% ในดัชนี S&P 500 ได้รายงานผลประกอบการในไตรมาส 4 แล้ว ซึ่งเกือบ 80% ในจำนวนดังกล่าวมีผลประกอบการสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์