͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: สธ.เผยผลตรวจหนุ่มอเมริกันเป็น โอไมครอน  (อ่าน 105 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Joe524

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15802
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
สธ.เผยผลตรวจหนุ่มอเมริกันเป็น "โอไมครอน" 99.92% ชี้แพร่เร็ว อาการน้อย ทั่วโลกไม่พบผู้เสียชีวิต


กระทรวงสาธารณสุข แจงผลตรวจเชื้อโควิดชายอเมริกันอายุ 35 ปี มาจากสเปน แสดงว่าเป็นสายพันธุ์โอไมครอน 99.92% ถือเป็นรายแรกของประเทศไทย ส่วนผู้สัมผัสรายอื่นติดตามแล้วยังไม่พบการติดเชื้อจะติดตามจนครบระยะฟักตัวของโรค ชี้สายพันธุ์หลักที่พบในไทยกว่า 99% ยังเป็นเดลตา ย้ำการฉีดวัคซีนจำเป็นเพราะช่วยลดการป่วยหนักและเสียชีวิตได้ เผย “โอไมครอน” แพร่เร็วกว่าสายพันธุ์อื่น 2-5 เท่า ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ หรืออาการน้อยคล้ายไข้หวัดใหญ่ ทั่วโลกยังไม่พบผู้เสียชีวิตจากสายพันธุ์นี้

วันนี้ (6 ธ.ค.) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 และความคืบหน้าการตรวจสายพันธุ์โอมิครอน

นพ.ศุภกิจกล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังพบเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา 99.87% ส่วนการเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. - 4 ธ.ค. 2564 ผู้เดินทางทุกระบบส่วนใหญ่ตรวจพบเชื้อสายพันธุ์เดลตาและสายพันธุ์ย่อยของเดลตา และมี 1 ราย เป็นชายชาวอเมริกันอายุ 35 ปี เดินทางมาจากสเปน เข้าระบบ Test & Go จากการตรวจด้วยวิธี RT-PCR ด้วยน้ำยาเฉพาะพบตำแหน่งที่กลายพันธุ์สอดคล้องกับตำแหน่งที่พบในโอไมครอน จึงส่งตรวจแบบถอดรหัสพันธุกรรมทั้งตัวพบเข้ากันได้กับสายพันธุ์โอมิครอน 99.92% แต่เนื่องจากตัวอย่างที่ส่งตรวจครั้งแรกมีเชื้อค่อนข้างน้อยทำให้ผลการตรวจไม่สมบูรณ์ ได้ขอตัวอย่างมาตรวจอีกครั้งเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2564 โดยตรวจสอบร่วมกับศูนย์จีโนมทางการแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐฯ ด้านสาธารณสุข ผลสรุปได้ว่าเป็นสายพันธุ์โอมิครอน ถือเป็นผู้ป่วยรายแรกของประเทศไทย ซึ่งเป็นการเดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ

"ขณะนี้ผู้ที่ตรวจพบสายพันธุ์โอไมครอนยังอยู่ในการดูแลของระบบสาธารณสุข จึงไม่ต้องเป็นกังวล ส่วนผู้ที่เดินทางเข้ามาอย่างถูกต้องจะผ่านการตรวจคัดกรองอย่างเข้มงวด เมื่อพบก็จะถูกกักตัวไว้ในระบบจนกว่าจะปลอดภัย ซึ่งไทยมีโอกาสที่จะพบผู้ติดเชื้อรายต่อๆ ไปได้ จึงอยากให้ทำความเข้าใจและร่วมมือกันป้องกันตามมาตรการต่างๆ โดยเฉพาะการออกมาฉีดวัคซีนให้มากที่สุด ส่วนกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และเครือข่ายจะเฝ้าระวังสายพันธุ์ต่างๆ อย่างเข้มข้นต่อไป รวมถึงศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ภาคใต้จะเพิ่มการตรวจมากขึ้น เนื่องจากมีชายแดนติดกับมาเลเซียที่พบสายพันธุ์โอมิครอนแล้ว" นพ.ศุภกิจกล่าว