จากการเผชิญหน้าของโรคระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของหลายธุรกิจที่ไม่อาจตั้งตัวได้ทัน ส่งผลให้ต้องชะลอตัว หรือเลวร้ายยิ่งกว่านั้นคือต้องปิดตัวลงอย่างน่าใจหาย ทว่าภัยร้ายครั้งนี้กลับสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับ บริษัท กัลย์นารี เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย ผักเกษตรอินทรีย์ หรือผักออร์แกนิก รวมทั้งส่งเครื่องปรุงอาหาร วัตถุดิบประกอบอาหาร โดยประกอบกิจการ ส่งออก ยังคงสามารถยืนหยัด ผลิตและส่งออกไปยังต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง อาทิ ประเทศเกาหลี ประเทศญี่ปุ่น
นอกจากนี้สถานการณ์โรคระบาดที่เกิดขึ้น บริษัท กัลย์นารี เทรดดิ้ง สวนทางกับเศรษฐกิจโลก ปรับวิกฤตให้เป็นโอกาส ผู้บริโภคยังคงต้องการสินค้าเพื่อการบริโภคและมีจำนวนมากขึ้น จนทำให้กัลย์นารี เทรดดิ้ง ต้องปรับตัวเพื่อรับมือต่อความต้องการ และมุ่งขยายฐานการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคและศึกษากฎหมายของประเทศปลายทางควบคู่กันไป
คุณกิตติกรและคุณนฤนาฎ ศรีม่วง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กัลย์นารี เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ กัลย์นารี เทรดดิ้ง สามารถเติบโตไปได้อย่างรวดเร็ว คือ ความจริงใจที่มีต่อผู้บริโภค โดยมุ่งเน้นผลิตผักเกษตรอินทรีย์ หรือผักออร์แกนิก ที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพ รวมถึงการมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเพื่อเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง และไม่ใช้สารเคมี ก่อนส่งตรวจแล็ปซึ่งได้ผ่านการรับรองมาตรฐานและความปลอดภัยจากหน่วยงานของรัฐว่าเป็นผักปลอดสารพิษ 100 %
“ผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายและส่งออกทั้งหมดผักปลอดสาร 100% มาจากสวนผักของบริษัทเอง ในนาม สวนกัลย์นารีฟาร์ม ได้รับ GAP จากกรมวิชาการเกษตร ภายใต้การดูแลของ นายภีมพศ สิริวัณโณ จึงมั่นใจและเชื่อมั่นได้ว่าทุกกระบวนการผลิตไม่มีการปนเปื้อนสารเคมีลงในผัก โดยทุกขั้นตอนได้รับการควบคุมและตรงตามมาตรฐานที่กำหนดไว้อย่างเข้มงวด อีกทั้งบริษัทฯ ได้ปฏิบัติงานที่สอดคล้องตามแนวทางของประเทศที่ส่งออกสินค้าของประเทศเกาหลีและประเทศญี่ปุ่น”
“นอกจากนี้ กัลย์นารี เทรดดิ้ง ยังให้ความสำคัญต่อการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงานเพื่อให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูงสุด”
ผู้บริหาร กล่าวเพิ่มเติมอีกกว่า จุดเริ่มต้นของ กัลย์นารี เทรดดิ้ง เกิดขึ้นจากการที่คุณแม่ได้ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่ประเทศเกาหลีและประกอบอาชีพค้าขายเป็นอาชีพหลัก ซึ่งทำให้เห็นแรงงานสัญชาติไทย และแรงงานกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ทั้ง เมียนมา กัมพูชา เวียดนาม รวมถึงอินโดนีเซีย อาศัยอยู่ในประเทศเกาหลีเป็นจำนวนมาก โดยเริ่มศึกษาและทำความเข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภคที่อาศัยในประเทศเกาหลี ซึ่งทำให้มองเห็นโอกาสในการทำธุรกิจที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชากรกลุ่มดังกล่าว
“จากมุมมองที่ได้เห็นมาบวกกับประสบการณ์ที่เป็นแม่ค้ามาหลายปีถือเป็นจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจประเภทส่งออกนี้ โดยช่วงแรกเปิดเป็นบริษัท ไร่กิตติกาญจน์ จำกัด แต่ด้วยขณะนั้นทำเลที่ตั้งอยู่ จ.สุโขทัย ซึ่งอยู่ห่างไกลจากการขนส่ง จึงส่งผลกระทบทำให้ผักเกิดความเสียหายระหว่างขนส่ง”
หลังจากเกิดข้อผิดพลาดในช่วงที่ดำเนินธุรกิจภายใต้ บริษัท ไร่กิตติกาญจน์ จำกัด ทำให้ตัวเองได้รับบทเรียนและปรับกลยุทธ์พร้อมแก้ไขปัญหา หาสถานที่ตั้งบริษัทที่มีทำเลเหมาะสม ใกล้กับการขนส่งและง่ายต่อการจัดหาวัตถุดิบ จนสามารถนำพาธุรกิจภายใต้ชื่อ บริษัท กัลย์นารี เทรดดิ้ง จำกัด เติบโตอย่างต่อเนื่อง
“ตลอดระยะเวลา 7 ปี ที่ดำเนินธุรกิจ ภายใต้ บริษัท กัลย์นารี เทรดดิ้ง จำกัด มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สามารถสร้างรายได้และมีผลกำไรมากกว่า 70% ทุกปี ซึ่งขณะนี้กำลังวางแผนกำหนดเป้าหมายครั้งใหม่ เพื่อเพิ่มสัดส่วนการลงทุนและขยายตลาดการค้าที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมอีกด้วย”
ทั้งนี้ซีอีโอ ธุรกิจผักออร์แกนิกกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “ท่านใดที่อยากจะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วแบบ บริษัท กัลย์นารี เทรดดิ้ง จำกัด ต้องมีความจริงใจและซื่อสัตย์ต่อผู้บริโภค หาเกษตรกรที่มีความจริงใจ ไม่ใช้สารเคมี หรือถ้ามีพื้นที่ในการทำการเกษตรเอง เราก็จะสามารถควบคุมต้นทุนและคุณภาพของสินค้าเองได้ และสิ่งที่สำคัญไปกว่านั้น คือ การไม่หยุดเรียนรู้ ความขยัน ความอดทน การปรับตัว และพร้อมที่จะรับมือกับทุกสถานการ์ที่จะเกิดขึ้น”