͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: วอลสตรีทเจอร์นัลรายงาน “จีน” เกิดวิกฤตขาดพลังงานกระทบหนักฮับผลิต  (อ่าน 99 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ luktan1479

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 16766
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
เอเจนซีส์ - ปัญหาจีนขาดแคลนพลังงานอย่างหนักปัจจุบันหลายโรงงานผู้ผลิตต้องอยู่แบบปันกระแสไฟฟ้าใช้ ส่งผลทำให้โรงงานผลิตสินค้าแกดเจ็ตของแอปเปิลและสินค้าไฮเทคอื่นๆ เช่น คอนคราฟต์ (Concraft) ต้องหยุดการผลิตลงเป็นเวลา 5 วัน เพื่อการปันกระแสไฟฟ้า

วอลสตรีทเจอร์นัล สื่อธุรกิจรายงานวันนี้ (21 ต.ค.) ว่า ตั้งแต่บอร์ดวงจรไฟฟ้าไปจนถึงชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และมาจนถึงผลิตภัณฑ์แกดเจ็ตไฮเทคของบริษัทแอปเปิล และแม้กระทั่งเฟอร์นิเจอร์สวนหลังบ้านของชาวอเมริกันที่ใช้ในชีวิตประจำวันผลิตมาจากจีนทั้งสิ้น และพบว่าโรงงานรับจ้างผลิตในจีนเหล่านี้ได้รับข้อความจากรัฐบาลท้องถิ่นของจีนว่าในเวลานี้ จีนกำลังประสบปัญหาพลังงานและไม่มีกระแสไฟฟ้าเพียงพอสำหรับทุกคน พบว่ามีหลายเมืองเกิดไฟฟ้าดับ และทำให้ทางการจีนออกกฎใหม่ขึ้นมาอย่างไม่คาดฝัน

ทางการจีนอนุญาตให้ทำงานได้ในชั่วโมงการทำงานที่จำกัดซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นช่วงกลางคืน วิกฤตพลังงานในจีนครั้งร้ายแรงส่งผลทำให้มีโรงงานต้องปิดลงชั่วคราว วอลสตรีทเจอร์นัลเตือนว่า หากว่าจีนซึ่งถือเป็นฮับฐานการผลิตยักษ์ใหญ่ของโลกยังคงเกิดปัญหาการขาดกระแสไฟฟ้าต่อไป คาดว่าจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างออกไปทั่วโลก ซึ่งปัญหาหลักนั้นมาจาก “ถ่านหิน”

จีนเป็นผู้บริโภคพลังงานฟอสซิลสกปรกเป็นอันดับ 1 ของโลก และการที่ประเทศต้องพึ่งพามันส่งผลกระทบอย่างเจ็บปวดต่อการนำจีนข้ามไปสู่อนาคตของการใช้พลังงานที่สะอาด และขณะเดียวกัน ส่งผลกระทบทำให้เกิดความล่าช้าของผู้บริโภคชาวอเมริกันในการที่จะได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ถูกผลิตมาจากจีน

ซึ่งในการที่จะให้ฮับอุตสาหกรรมยังคงเปิดต่อไปและประชาชนจีนมีไฟฟ้าใช้ภายในบ้าน จีนต้องการพลังงานจำนวนมหาศาล ซึ่งแค่ในปีที่ผ่านมา พบว่า 60% ของพลังงานมาจากถ่านหิน แต่เมื่อไม่นานมานี้พบว่ามีความต้องการเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจจีนสามารถฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 ได้เร็วกว่าประเทศอื่น ดังนั้นแล้วผลคือจีนสามารถผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์ได้มากขึ้นและทำให้จำเป็นต้องใช้พลังงานเพิ่มขึ้นตามมา

โรงงานผู้ผลิตในจีนเร่งกำลังการผลิตสำหรับชิ้นส่วนของโทรศัพท์ไอโฟนและเครื่องเล่นวิดีโอเกมที่ผู้บริโภคในโลกตะวันตกต้องการระหว่างที่ต้องติดอยู่ในบ้านช่วงล็อกดาวน์ แต่ทว่าจีนกลับไม่สามารถหาถ่านหินเพิ่มมากขึ้นจากผู้ผลิตภายในประเทศเป็นเพราะมีประเด็นปัญหาด้านความปลอดภัยในเหมืองถ่านหินของจีนและการสอบสวนคอร์รัปชันในประเทศ รวมไปถึงการเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่มณฑลซึ่งเป็นที่ตั้งของเหมืองถ่านหินกระทบต่อซัปพลายทันที และในเวลาเดียวกันการนำเข้านั้นไม่ใช่สิ่งที่ทำง่ายดาย วอลสตรีทเจอร์นัลชี้ เป็นเพราะมีการแบนอย่างไม่เป็นทางการต่อสินค้าถ่านหินนำเข้าจากออสเตรเลียที่เป็นหนึ่งในแหล่งนำเข้าหลักของถ่านหินของจีน



ตั้งแต่ปีที่แล้วเป็นต้นมาปักกิ่งสั่งห้ามการนำเข้าถ่านหินจากออสเตรเลียเพื่อตอบโต้แคนเบอร์ราเรียกร้องให้มีการเปิดการสอบสวนอิสระระดับนานาชาติขึ้นเพื่อสืบหาต้นตอของการระบาดโควิด-19

และปักกิ่งแก้ปัญหาด้วยการแสวงหาแหล่งนำเข้าถ่านหินจากที่อื่น ได้แก่ อินโดนีเซียและมองโกเลีย แต่ทว่าเริ่มที่ยากมากขึ้นในการให้ได้มาเป็นเพราะส่วนต่างๆ ของโลกเริ่มฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 เช่นกัน และทำให้ไม่มีถ่านหินเพียงพอและทำให้ปัจจุบันนี้ราคาถ่านหินไต่สูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบหลายสิบปี

รัฐบาลจีนมีกฎห้ามผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าผลักภาระต้นทุนการผลิตค่าไฟแพงไปให้ผู้บริโภคดังนั้น แทนที่คนเหล่านี้จะเร่งการทำงานเครื่องปั่นไฟเหมือนเช่นในสหรัฐฯ พวกเขากลับตัดสินใจลดการผลิตไฟฟ้าลงและทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างในจีน และกระทบต่อโรงงานเป็นจำนวนมาก หนึ่งในโรงงานที่ได้รับผลกระทบเป็นโรงงานการผลิตเฟอร์นิเจอร์สวนหลังบ้านในมณฑลกวางตุ้ง (Guangdong Province)

โดยผู้บริหารชาวตะวันตก โทมัส เบริตเจส (Thomas Broetjes) ตำแหน่งหุ้นส่วนบริหารบริษัทเทรนด์ การ์เดน (Trend Garden) เปิดเผยว่า พวกเขาต้องปรับตัวตามกฎจำกัดใหม่ และชี้ว่าเมื่อต้นเดือนสิงหาคมตัวเขาได้รับข้อความจากรัฐบาลท้องถิ่นของจีนกล่าวว่า ขอให้หยุดการผลิตในช่วงระหว่างเวลาความต้องการพลังงานสูง (08.00-23.00 น.) เจ้าหน้าที่จีนให้ข้อมูลชัดเจนว่าช่วงเวลาใดที่บริษัทเฟอร์นิเจอร์ของเขาสามารถทำการผลิตได้และทำให้บริษัทต้องเปลี่ยนแปลงตารางการผลิตให้สอดคล้อง โรงงานต้องปิดบ่อยครั้งในช่วงเวลาความต้องการสูงและเปิดในช่วงเวลาระว่าง 23.00 น. ของกลางคืนไปถึงเวลา 08.00 น.เช้าของอีกวันแทนให้เป็นไปตามคำสั่งของรัฐบาลจีน

แต่ทว่ามีอีกหลายโรงงานไม่โชคดีเช่นนี้ วอลสตรีทเจอร์นัลรายงานว่า มีโรงงานการผลิตจำนวนหนึ่งของบริษัทแอปเปิล บริษัทแคมคราฟต์ (Camcraft) และโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ต่างกล่าวว่าต้องหยุดการผลิตลงเป็นเวลา 5 วันเต็ม และบริษัท เอสซอน (Esson) ซึ่งผลิตชิ้นส่วนเครื่องกลและยูนิไมครอน (Unimicron) ผู้ผลิตแผงวงจรพิมพ์ PCB (Printed Circuit Board) ต้องหยุดการผลิตลงเป็นเวลา 5 วันเช่นกัน

นอกเหนือจากนี้มีโรงงานจำนวนหนึ่งในเมืองคุนซาน (Kunshan) มณฑลเจียงซู ทางตะวันออกของจีนเปิดเผยกับสื่อธุรกิจว่า ต้องสั่งปิดโรงงานเป็นเวลา 5 วันในช่วงสิ้นเดือนกันยายน

เบริตเจส จากโรงงานเฟอร์นิเจอร์ในสวนเปิดเผยว่า ในเวลานี้การผลิตของโรงงานกลับมาเป็นปกติแต่เขาเตรียมความพร้อมสำหรับการปิดโรงงานได้ตลอดเวลาตามคำสั่งของรัฐบาลจีน และแสดงความเห็นว่า การทำงานในจีนจำเป็นต้องให้ความร่วมมือกับภาครัฐในกฎที่ถูกตั้งขึ้น ซึ่งการให้ความร่วมมือเป็นสิ่งสำคัญเป็นเพราะรัฐบาลปักกิ่งตั้งเป้าหมายต่อการเปลี่ยนแปลงทางสภาวะอากาศโลก โดยกำหนดให้การใช้กระแสไฟฟ้าต้องต่ำกว่าตัวเลข GDP แต่ทว่าในแค่ในครึ่งแรกของปี 2021 พบว่าการใช้ไฟฟ้าในจีนเพิ่มขึ้น 16.2% สูงกว่าตัวเลข GDP ของจีนที่ 12.7% และทำให้การบรรลุเป้าหมายทางสภาวะอากาศของจีนเป็นไปยากขึ้น