͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: เวียดนามเกือบแสนแห่กลับภูมิลำเนาหวั่นนครโฮจิมินห์ล็อกดาวน์รอบสอง  (อ่าน 35 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ fairya

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12401
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
รอยเตอร์ - ชาวเวียดนามหลายหมื่นคนที่ส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างถิ่นแห่เดินทางออกจากนครโฮจิมินห์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากมหานครที่ใหญ่ที่สุดของประเทศคลายล็อกดาวน์โควิด-19 ที่ดำเนินมาเป็นเวลาหลายเดือน ความเคลื่อนไหวที่ทำให้เกิดความวิตกถึงปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และการหยุดชะงักที่มากขึ้นของภาคการผลิต

การอพยพครั้งใหญ่เกิดขึ้นในขณะที่นครโฮจิมินห์และจังหวัดอุตสาหกรรมใกล้เคียงพยายามที่จะทำให้แน่ใจว่ามีแรงงานมากพอที่จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ที่อัตราการเติบโตของจีดีพีในไตรมาสที่ 3 หดตัวมากเป็นประวัติการณ์เนื่องจากการควบคุมโควิด-19

“เราทิ้งบ้านไว้ข้างหลังเพื่อมาหางานที่ดีกว่าในนครโฮจิมินห์ แต่ตอนนี้เราเหนื่อยแล้ว” เจิ่น ถิ เต็ม อายุ 32 ปี กล่าวขณะเข้าแถวเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตามมาตรการก่อนเดินทางออกจากเมือง

“เรากำลังกลับบ้านไปทำไร่เลี้ยงสัตว์” เจิ่น ถิ เต็ม กล่าว ขณะมุ่งหน้าไปที่หมู่บ้านของเธอใน จ.ด่งท้าป ในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขง พร้อมกับสามีและลูกวัย 8 เดือน

พวกเขาตกงานจากโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูปในเดือน ก.ค. เมื่อเมืองเริ่มกำหนดมาตรการควบคุมโควิด และต้องกักตัวอยู่แต่ในห้องเช่าขนาด 10 ตารางเมตร ท่ามกลางข้อจำกัดในการออกจากบ้าน

ประชาชนเกือบ 90,000 คน เดินทางออกจากนครโฮจิมินห์ตั้งแต่วันศุกร์ (1) ตามการรายงานของสื่อของรัฐ ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าพวกเขาอาจต้องติดอยู่ในเมืองอีกรอบหากเกิดการระบาดระลอกใหม่ หลังจากเมืองคลายมาตรการควบคุมตั้งแต่วันพฤหัสฯ (30)

ด้านรองประธานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ ได้กล่าวขอร้องให้ประชาชนอยู่ในเมืองต่อเพื่อทำงาน เนื่องจากเมืองกำลังเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานอย่างรุนแรง

การขาดแคลนแรงงานจะยิ่งเพิ่มปัญหาให้ภาคธุรกิจที่พึ่งพาแรงงานเป็นหลัก ที่ในตอนนี้ประสบปัญหาอยู่แล้วจากการล็อกดาวน์

“เรากำลังเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานครั้งใหญ่” ผู้รับเหมาย่อยของบริษัทก่อสร้างที่ไม่เปิดเผยชื่อจากนครโฮจิมินห์ กล่าว

“เราเหลือแรงงานแค่ 60% จากแรงงานทั้งหมดที่จำเป็นต้องใช้สำหรับโครงการ เป็นเรื่องยากที่จะรับสมัครคนงานเพิ่มในตอนนี้” ผู้รับเหมาย่อย กล่าว

ด้านซัปพลายเออร์ของบริษัท Nike และ Adidas ได้ระงับการดำเนินงานในเวียดนามเมื่อต้นปี และ Nike ได้ปรับลดคาดการณ์ยอดขายของปีงบประมาณ 2565 และเตือนถึงความล่าช้าในช่วงวันหยุดเทศกาล

ส่วนผู้ซื้อ iPhone 13 ใหม่ของบริษัท Apple อาจเผชิญกับการจัดส่งสินค้าที่คาดว่าใช้เวลายาวนานขึ้นกว่าเดิมเนื่องจากการระบาดในเวียดนาม ที่ส่วนประกอบสำหรับโมดูลกล้องใหม่ของโทรศัพท์ถูกประกอบขึ้นที่นั่น ขณะที่แบรนด์แฟชั่นหลายรายกำลังเบนเข็มอออกจากศูนย์กลางการผลิตต้นทุนต่ำในเอเชียแห่งนี้

เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ไม่ถึง 11% ของประชากร 98 ล้านคน ทั้งนี้ เวียดนามมีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสม 808,000 คน และมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากกว่า 19,700 คน โดยนครโฮจิมินห์มีสัดส่วนผู้ป่วยเกือบครึ่งหนึ่งและผู้เสียชีวิต 77% จากทั้งหมด.