เปิด 5 อันดับ กองทุนหุ้นไทย "
ผลตอบแทนสูงสุด" ในกลุ่ม "TH Sector Focus Equity" ชี้กระจุกตัวใน "ธนาคาร- พลังงาน- โครงสร้างพื้นฐาน" หากฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการบริโภค หนุนยิลด์สูง กองทุน K-ICT นำโด่ง24.62% รองมากองทุน ONE-HOSPITAL ที่22.77% บลจ.กสิกรไทย แนะกลุ่มไอซีทีสดใส
การลงทุนใน "กองทุนหุ้นไทย" นั้นรูปแบบการลงทุนที่หลากหลาย นอกจากการลงทุนในหุ้นไทยที่มีการกระจายตัวในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมแล้ว ยังมีกองทุนที่ตั้งแยกขึ้นมาลงทุนเฉพาะในกลุ่มธุรกิจนั้นๆ ด้วย
โดยทาง "มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย)" ได้แยกประเภทการลงทุนดังกล่าวออกมา ภายใต้ชื่อว่า "กลุ่มกองทุน TH Sector Focus Equity" เพื่อสะท้อนภาพการลงทุนของกองทุนประเภทนี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
สำหรับ "กองทุน TH Sector Focus Equity" ทางมอร์นิ่งสตาร์ ได้จัดตั้งขึ้นเพื่อ แยกกองทุนที่มีการลงทุนแบบกระจุกตัวในหมวดธุรกิจใด ๆ ออกจากกลุ่มกองทุนที่มีลงทุนกระจายไปในหลายธุรกิจ และเพื่อประโยชน์ของผู้ลงทุนในการค้นหากรณีต้องการลงทุนแบบกระจุกตัว
ทั้งนี้ ข้อมูลจาก มอร์นิ่งสตาร์ รีเสริช พบว่า ในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ "กองทุนหุ้นไทย" ในกลุ่ม TH Sector Focus Equity ที่มีผลตอบแทนสูงสุด 5 อันดับ ดังนี้
1.กองทุนเปิดเค ดัชนีหุ้นธุรกิจเทคโนโลยีและการสื่อสาร ( K-ICT) มีผลตอบแทน 24.62%
2.กองทุนเปิด วรรณ โฮสพีทอล ( ONE-HOSPITAL) มีผลตอบแทน 22.77%
3.กองทุนเปิดกรุงศรีไฟแนนเชี่ยลโฟกัสปันผล ( KFFIN-D) มีผลตอบแทน 18.80%
4.กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET BANKING SECTOR INDEX (ชนิดช่องทางอิเล็กทรอนิกส์) ( SCBBANKINGE) มีผลตอบแทน 17.12%
5. กองทุนเปิดเค ดัชนีหุ้นธุรกิจธนาคาร (K-BANKING ) มีผลตอบแทน 16.58%
นางสาวชญานี จึงมานนท์ นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มูลค่าการลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม "ธนาคาร พลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน" ทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการบริโภค เป็นปัจจัยสนับสนุนผลตอบแทนกองทุนกลุ่มนี้ ในทางกลับกันเป็นการสะท้อนการปรับตัวของราคาหุ้นในกลุ่มนั้น ๆ ได้
แต่อย่างไรก็ดีผลตอบแทนกลุ่มนี้ค่อนข้างผันผวนเนื่องจากลักษณะธรรมชาติที่มีความกระจุกตัว ทำให้บางช่วงผลตอบแทนเป็นบวกสูงกว่าและติดลบได้มากกว่ากองทุนทั่วไป
ทั้งนี้ กองทุนกลุ่มนี้จะไม่มีการจัดอันดับเนื่องจากมีการลงทุนในหมวดอุตสาหกรรมที่ต่างกันอย่างชัดเจน จึงไม่อาจเปรียบเทียบกันได้
อ่านข่าว : ราคาหุ้น‘ไฟเซอร์-โมเดอร์นา’ทรุดหวั่นวัคซีนป้องกันโควิด-19 เจอคู่แข่ง
อย่างไรก็ตาม การลงทุนตามกลุ่มอุตสาหกรรม สามารถเห็นเทรนด์การลงทุนที่ผู้ลงทุนสามารถพิจารณาการเติบโตของอุตสาหกรรมนั้นๆได้จากในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมานี้
สำหรับ กองทุนเปิด เค ดัชนี หุ้นธุรกิจเทคโนโลยีและการสื่อสาร (K-ICT) ที่มีผลตอบแทนที่โดดเด่นในหมวดการลงทุนประเภทนี้ โดยผู้จัดการกองทุนยังมีมุมมองเชิงบวกสำหรับการลงทุนระยะกลางถึงระยะยาว จากปัจจัยหนุนในเรื่อง "การเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นในกลุ่ม INTUCH" ซึ่งทั้งนักลงทุนรายเดิมและรายใหม่ ยังสามารเข้าลงทุนเพิ่มเติมได้
นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย มีมุมมองการลงทุนว่า ในระยะสั้น Downside Risk บน Valuation ของกลุ่มนี้ค่อนข้างจำกัด เนื่องจากมีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง อีกทั้งยังให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในอัตราที่สูงอีกด้วย รวมถึงได้ประโยชน์จากการคลายล็อกดาวน์และเศรษฐกิจฟื้นตัว หากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง
ที่สำคัญ การเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นในกลุ่ม INTUCH ทำให้ตลาดคาดหวังว่าจะมีการเปลี่ยนนโยบายการจ่ายเงินปันผลที่สูงขึ้นรวมถึงแผนงานทางทางธุรกิจเพิ่มเติม ตลอดจนถึงความเป็นไปได้ของการมี Synergy ร่วมกันจากกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่
ขณะที่ในระยะกลางถึงยาว คาดว่าผลประกอบการจะดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมทั้งจากรายได้ 5G ที่จะทยอยเข้ามา แม้คาดว่าจะยังไม่เร็วนักเนื่องจากต้องรอ Eco System เช่น มือถือ 5G ที่ราคาถูกลง และการทดสอบการใช้งานจริง (Use Case) ของ 5G
คำแนะนำผู้ลงทุน เข้าลงทุนได้ (สำหรับผู้ลงทุนใหม่) และลงทุนเพิ่มได้ (สำหรับผู้ลงทุนเดิม)