ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผันผวนในวันนี้(17 ก.ย.64) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจไร้ทิศทาง โดยยอดค้าปลีกเดือนส.ค.ขยายตัวได้ดีเกินคาด แต่ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นสูงกว่าคาดการณ์ ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดแรงงาน
ถูกกฎหมายเชื่อถือได้และเศรษฐกิจของสหรัฐ
ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 30,387.54 จุด เพิ่มขึ้น 64.20 จุด หรือ +0.21% ดัชนีฮั่งเส็งเปิดที่ 24,589.17 จุด ลดลง 78.68 จุด หรือ -0.32% ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดที่ 3,595.27 จุด ลดลง 11.82 จุด หรือ -0.33%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ยอดค้าปลีกเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 0.7% เมื่อเทียบรายเดือน สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.8% และเมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 15.1% โดยได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายในช่วงก่อนเปิดเทอมการศึกษาในสหรัฐ
ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 20,000 ราย สู่ระดับ 332,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 330,000 ราย
นักลงทุนจับตาความเคลื่อนไหวในตลาดหุ้นฮ่องกงอย่างใกล้ชิด หลังจากที่ดัชนีฮั่งเส็งดิ่งลงเกือบ 6% ในสัปดาห์นี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการใช้มาตรการควบคุมธุรกิจเทคโนโลยีและกาสิโน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 21-22 ก.ย.นี้ เพื่อหาสัญญาณการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 ก.ย.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐได้ฉุดหุ้นกลุ่มที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มวัสดุ โดยผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรได้สกัดปัจจัยบวกจากรายงานยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,751.32 จุด ลดลง 63.07 จุด หรือ -0.18% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,473.75 จุด ลดลง 6.95 จุด หรือ -0.16% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,181.92 จุด เพิ่มขึ้น 20.39 จุด หรือ +0.13%