นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ค. ที่ผ่านมา ตนได้ลงนามออกประกาศ เรื่อง หลักเกณฑ์การจัดสรร
เส้นทางบินให้กับผู้ได้รับอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือนในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2564
โดยได้ทำการปลดล็อคเปิดโอกาสให้สายการบินสามารถขออนุญาตทำการบินเข้า-ออกสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา –ระยอง- พัทยา เพิ่มเติม จากเดิมที่กำหนดให้มีสายการบินให้บริการได้ไม่เกิน 3 ราย เพราะสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา -ระยอง -พัทยา เป็นเส้นทางสายย่อย ที่มีผู้โดยสารใช้บริการไม่ถึง 1 แสนคนต่อปี ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 30 ต.ค. 2564 หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
สำหรับการออกประกาศดังกล่าว เพื่อต้องการเพิ่มทางเลือกและบรรเทาปัญหาการเดินทางให้กับผู้โดยสารที่มีความจำเป็นต้องเดินทางกลับภูมิลำเนาและเพื่อประโยชน์สาธารณะ ในการส่งเสริมให้มีการใช้บริการขนส่งทางอากาศที่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน
รวมถึงช่วยบรรเทาผลกระทบของสายการบินให้สามารถดำรงสถานะทางการเงินและให้บริการประชาชนต่อไปได้ ในช่วงที่สายการบินไม่สามารถบินรับ-ส่งผู้โดยสาร เข้าหรือออกจากท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เนื่องจากอยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด ซึ่งรัฐบาลประกาศควบคุมเที่ยวบินเข้าออก ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อยกระดับมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรค
นายสุทธิพงษ์ กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้สายการบินใดสนใจที่จะทำการบินที่ท่าอากาศยานอู่ตะเภา ระยอง พัทยา ก็สามารถยื่นขออนุญาตได้มากกว่า 3 สายการบิน โดยจะเป็นการอนุญาตให้บินแบบประจำ มีกำหนดเวลาการทำการบินรับส่งผู้โดยสาร ซึ่งขณะนี้กำหนดให้บินจนถึงแค่วันที่ 30 ต.ค.2564
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันสายการบินนกแอร์ได้แจ้งขอเริ่มทำการบินที่ท่าอากาศยานอู่ตะเภาแล้ว ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยยื่นขอจำนวน 5 เส้นทาง คือ เชียงใหม่ สกลนคร อุดรธานี อุบลราชธานี ภูเก็ต และนครศรีธรรมราช อีกทั้งล่าสุดสายการบินไทยเวียตเจ็ท ได้แจ้งขอเปิดทำการบินเช่นกัน โดยจะเริ่มทำการบินเที่ยวแรก วันที่ 2 ส.ค. นี้ รวม 1 เส้นทาง คือ อู่ตะเภา-ภูเก็ต
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ท่าอากาศยานอู่ตะเภามีสายการบินไทยแอร์เอเชีย สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ และบางกอกแอร์เวย์ส ทำการบินอยู่ก่อน และได้ยกเลิกการทำการบินชั่วคราวไปอย่างไม่มีแผนกำหนด ว่าจะกลับมาเปิดบินอีกครั้งเมื่อไหร่ ขณะที่สายการบินไทยสมายล์ ไม่สนใจที่จะเข้ามาทำการบินเนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีสถานีให้บริการภาคพื้นที่ท่าอากาศยานอู่ตะเภา