͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: เทพไท แนะ รัฐกลับลำ ชง 2 ข้อ ทำด่วน ชี้ เยียวยาล่าช้า คนจนอดตาย  (อ่าน 414 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Fern751

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15944
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
“เทพไท” ชี้ เยียวยาล่าช้า คนจนอดตาย แนะ รัฐบาลกลับลำ ใช้วิธีเยียวยาใหม่ ชง 2 ข้อ ทำด่วน ไม่งั้นช่วยคนจนหาเช้ากินค่ำ ไม่ทันการณ์ ขอรัฐบาลอย่าดื้อตาใส ใช้วิธีราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน

วันที่ 18 เม.ย. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงโครงการ "เราไม่ทิ้งกัน" ของรัฐบาลว่า นับตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม จนถึงขณะนี้เป็นเวลาเกือบ 1 เดือนแล้ว ที่รัฐบาลยังดำเนินการช่วยเหลือเยียวยา ผู้ได้รับกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังไม่เสร็จสิ้น ทั้งที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ในลักษณะทรงตัว หลังจากรัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาเป็นเวลาเกือบ 1 เดือน ชาวบ้านอดยาก ไม่มีรายได้ ไม่มีข้าวกิน มาเป็นเวลาหลายวัน แต่กระบวนการช่วยเหลือเยียวยาของรัฐบาลล่าช้า ทำให้คนจนที่ไม่มีเงินเก็บ ไม่มีรายได้ ที่หากินแบบวันต่อวัน หรือต้องหาเช้ากินค่ำ มีความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส การที่รัฐบาลเปิดให้มีการลงทะเบียนเพื่อช่วยเหลือเยียวยาในโครงการ "เราไม่ทิ้งกัน" ล่าสุด จำนวน 27.5 ล้านคน แต่ตอนนี้ได้รับการเยียวยาได้แค่ 4 ล้านคน ยังเหลือคนที่รอการช่วยเหลืออีกจำนวนมาก รวมถึงผู้ที่ถูกตัดสิทธิ์จากการเยียวยา ต้องไปอุทธรณ์ หรือ ทบทวนสิทธิ์อีก ในวันที่ 20 เมษายน ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 23 พฤษภาคม ถ้ายังมีข้อสงสัยก็ต้องใช้กลไกหรือตัวแทนของกระทรวงการคลัง และกระทรวงมหาดไทย ลงไปพิสูจน์ข้อเท็จจริงในพื้นที่เพื่อความถูกต้อง ซึ่งไม่มีหลักประกันว่า จะยืดเยื้อเสร็จสิ้นเมื่อไหร่

นายเทพไท กล่าวต่อว่า การที่รัฐบาลออกมาบอกว่า จะจ่ายคืนย้อนหลังให้ 2 เดือน สำหรับการเยียวยาที่ล่าช้านั้น เป็นการแก้ปัญหาไม่ถูกจุด เพราะการเยียวยาช่วยเหลือคนจน ต้องทำเร่งด่วน ในทันที ไม่ควรมีการจ่ายย้อนหลัง เพราะไม่ใช่การชำระหนี้ แต่เป็นการช่วยเหลือให้คน มีกินมีใช้ ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เท่านั้น การแก้ปัญหาของรัฐบาลในลักษณะเช่นนี้ ก็จะทำให้เกิดความล่าช้า ยืดเยื้อ และความเดือดร้อนของประชาชน จะไม่ได้รับการแก้ไขในทันท่วงที จึงไม่เข้าใจว่า ทำไมรัฐบาลยังดื้อตาใส ที่ไม่ทบทวนโครงการนี้ เพื่อเปลี่ยนไปเลือกใช้แนวทางตามที่ตนได้เสนอไว้ ซึ่งมีผู้เห็นด้วยเป็นจำนวนมาก คือ

1.จ่ายให้กับคนไทยทุกคนอายุ 18 ปีขึ้นไป มีเงินฝากไม่เกิน 1 แสนบาท หรือ 2.จ่ายให้กับทุกครัวเรือน ครัวเรือนละ 10,000 บาท ซึ่งถ้าเลือกใช้ 2 แนวทางนี้ จะเยียวยาสำเร็จได้ ภายในไม่เกิน 10 วัน เป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่เมื่อรัฐบาลยืนกระต่ายขาเดียว ที่จะใช้วิธีการเดิม ก็ต้องใช้เวลายาวนานหลายเดือน ไม่ทันต่อเหตุการณ์ความเดือดร้อนของประชาชนที่เกิดขึ้น รัฐบาลอาจจะไม่เข้าใจถึงอารมณ์ความรู้สึกของคนจน ที่ไม่มีข้าวจะกิน ในแต่ละมื้อในแต่ละวัน ว่า มีความทุกข์ทรมานมากน้อยแค่ไหน อยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างทันท่วงที ไม่ควรใช้ระบบทางราชการ มาแก้ปัญหาความเดือดร้อนของคนจน ในสถานการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้