วันนี้ (14 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมา กลุ่ม
ผู้ใช้แรงงานที่เดินทางกลับมาจากประเทศเกาหลีใต้ ได้เดินทางถึงพื้นที่ จ.เชียงราย แล้วหลังจากมีการนำตัวไปตรวจคัดกรองที่ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี ไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยแรงงานทั้งหมดมีจำนวน 33 คน เป็นชาย 19 คน และหญิง 14 คน ทั้งหมดมีเด็กอายุ 4 ขวบ และทารกวัยเพียง 11 เดือนรวมอยู่ด้วย
โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดรถบัสโดยสารให้เดินทางกลับไปถึงโรงพยาบาลแม่ลาว อ.แม่ลาว จ.เชียงราย ซึ่งทางคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย ได้จัดอาคารชั้นเดียวที่ตั้งอยู่ด้านหลังอาคารรวมของโรงพยาบาลเป็นสถานที่รับและคัดกรองเบื้องต้นโดยมีทีมแพทย์ พยาบาล ตำรวจ สภ.แม่ลาว คอยดูแลตรวจตราการเข้าออกของผู้คนอย่างเข้มงวดไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกหรือแม้แต่ญาติเข้าไปภายในขณะที่เจ้าหน้าที่มีการสวมใส่ชุดป้องกันโรค และจัดให้ญาติที่ไปรอรับอยู่ภายในศูนย์ประสานงานที่ตั้งอยู่ห่างจากอาคารดังกล่าวประมาณ 100 เมตรด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสภาพร่างกายของผู้เดินทางกลับรายใหม่ทั้ง 33 คน พบว่ามีสุขภาพร่างกายแข็งแรงและไม่มีผู้ใดมีไข้ เจ้าหน้าที่จึงได้สอบถามประวัติและให้ญาติเข้ารับตัวด้วยรถยนต์ส่วนตัวของแต่ละคนหรือบางรายได้ใช้บริการรถโรงพยาบาลประจำตำบล แล้วพากันทะยอยเดินทางออกจากโรงพยาบาลกลับไปยังภูมิลำเนาแล้วซึ่งส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาอยู่ในเขต อ.เมืองเชียงราย เขียงแสน แม่ฟ้าหลวง เวียงเชียงรุ้ง แม่สรวย ฯลฯ หลายรายเดินทางไปจากหมู่บ้านเดียวกันจำนวน 8 คน และหลายคนได้เดินทางไปทำงานที่เกาหลีใต้แล้วหลายปีทำให้บรรดาญาติต่างเฝ้ารอด้วยความเป็นห่วง ทั้งนี้ ทางคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย ได้ขอให้แต่ละรายได้ทำการกักตัวเองภายในบ้านเป็นเวลา 14 วันเพื่อให้พ้นระยะการฟักตัวของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างแน่นอนแล้วจึงใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ญาติของผู้เดินทางกลับคนหนึ่งกล่าวว่า ภายหลังจากทราบว่าญาติของตนจะเดินทางกลับมาในครั้งนี้ก็รู้ดีว่าต้องเตรียมตัวเพราะโรคชนิดนี้ไม่เหมือนครั้งใดๆ เพราะมีการฟักตัวยาวหลายวันและหวั่นเกรงว่าจะได้รับความไม่ไว้วางใจจากบรรดาเพื่อนบ้านอีกด้วย จึงได้จัดสถานที่เป็นสวนยางพาราโดยมีการสร้างกระท่อมเอาไว้กลางสวนโดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ พร้อมเพื่อการยังชีพให้ครบ 14 วัน เชื่อว่าจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย ได้แจ้งว่ามีคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงระหว่างวันที่ 6 ม.ค. - 12 มี.ค.ที่ผ่านมาจำนวน 224 ราย ทั้งหมดได้ให้ความร่วมมือในการกักตัวอยู่ในภูมิลำเนาเป็นเวลา 14 วันแล้ว โดยหลายคนกักตัวจนครบกำหนดระยะเวลาและหลายคนอยู่ระหว่างกักตัวโดยใช้วิธีการไปต่างๆ นานา ทั้งหุงหาอาหารเองในอาคารหลังเดี่ยว ให้ญาตินำอาหารไปส่งให้ในแต่ละมื้อ อาศัยอยู่ร่วมบ้านหลังเดียวกันแต่ใช้ความระมัดระวัง ฯลฯ และการเดินทางกลับของกลุ่มใหม่จำนวน 33 คนดังกล่าวทำให้มียอดสะสมของผู้ที่กักตัวจำนวน 257 คนซึ่งทั้งหมดยังไม่พบว่ามีไข้หรืออาการผิดปกติแต่อย่างใดและมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจดูอาการเป็นประจำทุกวันโดยหากพบความผิดปกติก็มีการจัดเตรียมสถานที่เพื่อดูอาการเอาไว้แล้วหลายแห่งแล้ว
