หุ้นยุโรปเปิดตลาดแดนลบในวันนี้ ขณะที่ นักลงทุนประเมินความเสี่ยงเรื่องเศรษฐกิจจีนชะลอตัว และหลังจากเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขของจีนยืนยันว่า จีนจะยังคงยึดมั่นในนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Covid Zero Policy)
ดัชนี STOXX 600 เปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 416.25 จุด ลดลง 0.73 จุด หรือ -0.18% หลังยอดส่งออกและนำเข้าเดือนต.ค.ของจีนลดลงแบบไม่คาดหมายเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี ทำให้เกิดความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะถดถอยเพิ่มมากขึ้น โดยหุ้นกลุ่มเหมือง สินค้าอุปโภคบริโภค และพลังงานนำตลาดร่วง
ดัชนี DAX
ตลาดหุ้นเยอรมนีเปิดวันนี้ที่ 13,398.79 จุด ลดลง 61.06 จุด หรือ -0.45% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดวันนี้ที่ 6,379.49 จุด ลดลง 36.95 จุด หรือ -0.58%
สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานในวันนี้ว่า ยอดส่งออกของจีนปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปีในเดือนต.ค. เนื่องจากอุปสงค์ที่ซบเซาลง รวมทั้งความเสี่ยงที่เศรษฐกิจทั่วโลกจะเผชิญภาวะถดถอย
รายงานของ GAC ระบุว่า ยอดส่งออกเดือนต.ค.ปรับตัวลง 0.3% ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.3% และย่ำแย่กว่าในเดือนก.ย.ที่มีการขยายตัว 5.7%
ขณะที่ยอดการนำเข้าเดือนต.ค.ลดลง 0.7% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีนี้ และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวขึ้น 0.1% ส่งผลให้จีนมียอดเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 8.515 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. จากระดับ 8.474 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย. โดยข้อมูลการค้าดังกล่าวพิจารณาในรูปสกุลเงินดอลลาร์
นายหู เซียง เจ้าหน้าที่ของสำนักงานป้องกันและควบคุมโรคของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (NHC) เปิดเผยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (5 พ.ย.) ว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วประเทศทำให้จีนยังคงต้องยึดมั่นต่อนโยบายโควิดเป็นศูนย์ และยังกล่าวด้วยว่าการใช้นโยบายดังกล่าวได้รับการพิสูจน์แล้วว่าคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ถ้อยแถลงของนายหู ถือเป็นการดับความฝันของนักลงทุน หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า จีนจะผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์ และอาจจะทำการเปิดประเทศในเดือนมี.ค. 2566
