ราคาหุ้นบริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์ ซึ่งบริษัทแม่ของเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม พุ่งขึ้นกว่า 3% ในการซื้อขายก่อนเปิด
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในวันนี้ หลังสื่อรายงานว่า บริษัทจะเริ่มทำการปลดพนักงานจำนวนมากในสัปดาห์นี้ หรืออย่างเร็วที่สุดในวันพุธนี้
คาดว่าการเลิกจ้างดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อพนักงานจำนวนหลายพันคนจากทั้งหมดกว่า 87,000 คน และเป็นการปรับลดพนักงานครั้งใหญ่ครั้งแรกของบริษัท
เมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา นายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเมตาได้จัดการประชุมกับพนักงาน และได้เปิดเผยแผนระงับการจ้างงานและปรับโครงสร้างบริษัท เนื่องจากสถานการณ์ของเศรษฐกิจมหภาคยังคงมีความไม่แน่นอน
การประกาศปลดพนักงานดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่เมตาเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า บริษัทมีกำไรต่ำกว่าคาดในไตรมาส 3 ขณะที่ธุรกิจเมตาเวิร์สขาดทุนอย่างหนักนับตั้งแต่ต้นปีนี้
เมตาเปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 1.64 ดอลลาร์/หุ้น ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.89 ดอลลาร์/หุ้น
นอกจากนี้ เมตาคาดการณ์ว่า รายได้ในไตรมาส 4 จะอยู่ในช่วง 3.0-3.25 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.22 หมื่นล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน เมตาเปิดเผยว่า Reality Labs ซึ่งเป็นแผนกที่เมตาสร้างขึ้นเพื่อรองรับผลิตภัณฑ์เมตาเวิร์ส ประสบภาวะขาดทุน 3.67 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 และหากพิจารณาตั้งแต่ต้นปีนี้ Reality Labs มีตัวเลขขาดทุนมากถึง 9.4 พันล้านดอลลาร์
ราคาหุ้นเมตาทรุดตัวมากถึง 73% ในปีนี้ และเป็นบริษัทที่ปรับตัวย่ำแย่ที่สุดในดัชนี S&P 500 ในปี 2565