สถาบันในสหรัฐ
ไม่แนะรายย่อยลงทุนคริปโทฯ กังวลความโปร่งใส-มาตรการควบคุม
ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดย Natixis Investment Managers ระบุว่า ผู้บริหารด้านการลงทุนราว 68% ในสหรัฐ ไม่แนะนำให้นักลงทุนรายย่อยถือครองสกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซีในพอร์ตการลงทุน
การสำรวจดังกล่าวได้จากการสอบถามความเห็นของบรรดาผู้บริหารการลงทุนในบริษัทโบรกเกอร์, บริษัทที่ปรึกษาด้านการเงิน, ธนาคารพาณิชย์และสถาบันอื่น ๆ ในสหรัฐจำนวน 141 คน ซึ่งทำหน้าที่วิเคราะห์และเลือกการลงทุนให้กับลูกค้า โดยผู้บริหารการลงทุนเหล่านี้ดูแลสินทรัพย์ของลูกค้ารวมกันมูลค่า 2.7 ล้านล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี ผลสำรวจบ่งชี้ว่า 40% ของผู้บริหารการลงทุนเปิดเผยว่า กลุ่มลูกค้าโดยเฉพาะผู้ที่มีอายุน้อยต่างก็ต้องการลงทุนในสกุลเงินคริปโทฯ เช่น บิตคอยน์และอีเธอร์เรียม โดยลูกค้าเหล่านี้แสดงความต้องการที่จะเพิ่มการลงทุนในสกุลเงินคริปโทฯ
ส่วนผลสำรวจของซีเอ็นบีซีซึ่งเปิดเผยเมื่อเดือนส.ค.ปีที่แล้วบ่งชี้ว่า มีนักลงทุนมากกว่า 10% ถือครองสกุลเงินคริปโทฯ ซึ่งน้อยกว่าการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์, หุ้น, กองทุนรวม และพันธบัตร
เดฟ กู๊ดเซลล์ ผู้อำนวยการบริหารของ Natixis Center for Investor Insight กล่าวว่า การที่บรรดาผู้บริหารการลงทุนลังเลที่จะลงทุนในสกุลเงินคริปโทฯนั้น ส่วนใหญ่เป็นเพราะความกังวลเกี่ยวกับความโปร่งใสและการขาดการกำกับดูแลที่ชัดเจน
ทั้งนี้ ประมาณ 87% ของผู้บริหารการลงทุนต่างก็มองว่า สินทรัพย์คริปโทฯ จำเป็นต้องมีความโปร่งใสมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ขณะที่ 84% มองว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่สกุลเงินคริปโทฯ จะต้องได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานของรัฐ
นอกจากนี้ 70% มองว่า บริษัทของตนจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลและคริปโทฯ ก่อนที่จะตัดสินใจเข้าลงทุน
อย่างไรก็ดี การที่บริษัทผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการซื้อขายสกุลเงินคริปโทฯ ได้หันมาซื้อโฆษณาคั่นรายการแข่งขันซูเปอร์โบวล์ (Super Bowl) เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น ได้กระตุ้นให้นักลงทุนสนใจลงทุนในคริปโทฯ อย่างล้นหลาม โดยบริษัทที่ซื้อโฆษณาซูเปอร์โบวล์ปีนี้คือ FTX ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินคริปโทฯ และ Crypto.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินคริปโทฯ ของสิงคโปร์
ทิม คัลกินส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดจากวิทยาลัยเคลลอกก์ สคูล ออฟ เมเนจเมนต์เปิดเผยว่า "สกุลเงินคริปโทฯ กลายเป็นกระแสหลักที่ผู้คนให้ความสนใจทุกวัน บริษัทที่ให้บริการซื้อขายสกุลเงินเหล่านี้ต่างก็พยายามที่จะหาลูกค้ารายใหม่ ๆ และการเห็นโฆษณาบนเวทีซูเปอร์โบวล์อาจทำให้ประชาชนตัดสินใจลงทุนกับบริษัทเหล่านี้"