͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้  (อ่าน 16 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Thetaiso

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 9362
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดอ่อนแรงลงในวันนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งเกินคาดในเดือนม.ค. ซึ่งปัจจัยดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่า อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าคุมเข้มนโยบายการเงิน ขณะที่ตลาดหุ้นจีนกลับมาเปิดทำการเป็นวันแรกหลังหยุดยาวเทศกาลตรุษจีนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

-- นายคลาส น็อต สมาชิกคณะกรรมการบริหารธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดการณ์ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของ ECB จะเกิดขึ้นในเดือนต.ค.ปีนี้ และการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 2 จะเกิดขึ้นช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี 2566

นายน็อตกล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ Buitenhof วานนี้ว่า เขาคาดว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยประมาณ 0.25% พร้อมกับคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนจะดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 4% ในปีนี้

"สถานการณ์เงินเฟ้อในยุโรปแตกต่างจากเงินเฟ้อในสหรัฐซึ่งมีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากภาวะเงินเฟ้อภายในประเทศ โดยเงินเฟ้อในยุโปรส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากปัญหาเงินเฟ้อในต่างประเทศ ดังนั้น การดำเนินนโยบายการเงินของเราจึงแตกต่างจากสหรัฐ" นายน็อตกล่าว
-- ธนาคารกลางอินเดียประกาศเลื่อนการประชุมนโยบายการเงิน จากเดิมที่มีกำหนดแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในวันพุธที่ 9 ก.พ. เลื่อนเป็นวันพฤหัสบดีที่ 10 ก.พ. เพื่อไว้อาลัยแก่ ลตา มังเคศกร (Lata Mangeshkar) ศิลปินนักร้องระดับตำนานผู้เป็นที่รักของชาวอินเดีย ซึ่งเสียชีวิตลงเมื่อวานนี้ (6 ก.พ.) หลังจากที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. หลังจากที่ติดเชื้อโควิด-19 โดยรัฐบาลอินเดียได้จัดพิธีฌาปนกิจให้กับเธออย่างสมเกียรติในเมืองมุมไบ พร้อมประกาศให้ลดธงครึ่งเสาและให้ไว้อาลัยทั่วประเทศเป็นเวลา 2 วัน

โฆษกธนาคารกลางอินเดียออกแถลงการณ์ว่า ธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ ในมุมไบ รวมทั้งตลาดพันธบัตรและตลาดปริวรรตเงินตราจะปิดทำการในวันนี้ ส่วนตลาดหุ้นอินเดียจะเปิดทำการซื้อขายตามปกติ

-- -แซดทีอี (ZTE) บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมรายใหญ่ของจีน เติบโตอย่างโดดเด่นในปี 2564 เมื่อเทียบรายปี โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ

บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ระบุในเอกสารที่ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้นว่า กำไรของบริษัทในปี 2564 น่าจะอยู่ที่ราว 6.5 พันล้านหยวน (1.02 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ถึง 7.2 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 52.59% ถึง 69.02% จากปีก่อนหน้า

โดยกำไรที่พุ่งขึ้นเป็นผลมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ อัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวขึ้นก็มีส่วนเช่นกัน

-- คณะอัยการในสวิตเซอร์แลนด์เตรียมตั้งข้อหากับธนาคารเครดิตสวิส ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสวิตเซอร์แลนด์ โดยระบุว่า ธนาคารมีความผิดฐานช่วยเหลือแก๊งลักลอบขนยาเสพติดในบัลแกเรียฟอกเงินรวมหลายล้านยูโร โดยคณะอัยการได้เรียกค่าเสียหายราว 42.4 ล้านฟรังก์สวิส

คณะอัยการเปิดเผยว่า ธนาคารเครดิตสวิสและอดีตผู้จัดการของธนาคารไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ อย่างครบถ้วนเพื่อป้องกันไม่ให้แก๊งลักลอบขนยาเสพติดทำการซุกซ่อนและฟอกเงินระหว่างปี 2547-2551

อย่างไรก็ดี ธนาคารเครดิตสวิสออกแถลงการณ์ว่า "ธนาคารขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาเกี่ยวกับประเด็นในอดีตดังกล่าว เนื่องจากไม่มีมูลความจริงใด ๆ และเชื่อว่าอดีตพนักงานของธนาคารไม่มีความผิด" และประกาศว่าจะต่อสู้คดีในชั้นศาลอย่างเต็มที่

-- มาร์กิตและไฉซินเปิดเผยผลสำรวจซึ่งระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีนลดลงสู่ระดับ 51.4 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนหรือนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2564 จากระดับ 53.1 ในเดือนธ.ค. เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการใช้มาตรการที่เข้มงวดในการควบคุมการระบาดได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของทั้งภาคธุรกิจและผู้บริโภค ขณะที่ตัวเลขจ้างงานในภาคบริการปรับตัวลดลงด้วย นายหวัง จือ นักวิเคราะห์ของไฉซินแสดงความเห็นว่า ภาคบริการได้รับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการเข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะในเมืองซีอานและกรุงปักกิ่ง ซึ่งมาตรการควบคุมเหล่านี้รวมถึงการออกกฎข้อบังคับที่เข้มงวดในการผลิต การขนส่ง และการขายสินค้า

-- กระทรวงกลาโหมสหรัฐได้ส่งทหารถึงประเทศโปแลนด์แล้วเมื่อวานนี้ เพื่อเสริมกำลังกองทัพของชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต (NATO) ในยุโรปตะวันออก เพื่อรับมือกองทัพรัสเซียตามแนวพรมแดนยูเครน

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้อนุมัติการส่งกำลังทหารสหรัฐจำนวน 3,000 นายเข้าไปประจำการในยุโรปตะวันออกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

กระทรวงกลาโหมสหรัฐเปิดเผยว่า ทหารที่ส่งไปโปแลนด์นั้นมีจำนวนประมาณ 1,700 นาย ส่วนใหญ่มาจากกองพลส่งทางอากาศที่ 82

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยอินโดนีเซียมีกำหนดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2564 , ญี่ปุ่นเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนธ.ค., เยอรมนีเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค. และอังกฤษดัชนีราคาบ้านเดือนม.ค.จากฮาลิแฟกซ์