͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: เวที “มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2021” เผย 3 เหตุผลที่ฝ่าโควิดจัดประกวด   (อ่าน 101 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Fern751

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15944
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด


“ปุ้ย ปิยาภรณ์” เผย 3 เหตุผลที่ฝ่าโควิดจัดประกวด “มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2021” เดือน ต.ค.นี้ ยันตั้งการ์ดแข็งแรงจะไม่ยอมให้เกิดคลัสเตอร์ในกองประกวดเด็ดขาด จัดหนักจัดเต็มคนที่ได้ตำแหน่งเตรียมรับเงินสด 1 ล้าน คอนโด และรถยนต์หรู ปีนี้ชุดประจำชาติธีม “มวยไทย”

เปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับการประกวด “มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2021” งานนี้ “ปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก” ผู้บริหารจากบริษัท ทีพีเอ็น โกล. จำกัด (TPN) ผู้ถือลิขสิทธิ์การจัดการประกวด มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ ออกมายืนยันให้แฟนนางงามได้ชื่นใจว่าปีนี้จัดแน่นอน ภายใต้แนวคิด “Power of Passion” หรือ “สตรีผู้ทรงพลัง สู่เส้นทางแห่งชัยชนะ” ซึ่งผู้ที่ได้ตำแหน่งจะได้รับรางวัลมงกุฏเกียรติยศ เงินสด 1 ล้านบาท คอนโด และรถยนต์หรูไปครอง

โดยจะเปิดรับสมัครออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 7 - 19 กันยายน และจะเผยโฉมผู้เข้าประกวดรอบแรกจำนวน 60 คนในช่วงปลายเดือนกันยายน เพื่อแข่งขันกันในรอบ Keyword และเข้าสู่รอบ 30 คนสุดท้ายในวันที่ 1 ตุลาคม จากนั้นทำกิจกรรมเก็บตัวที่เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ก่อนจะประกวดรอบตัดสินในค่ำคื่นวันที่ 24 ตุลาคม เพื่อหาตัวแทนสาวไทย ไปประกวด “มิสยูนิเวิร์ส 2021” ที่เมืองเอลัต ประเทศอิสราเอล ในเดือนธันวาคม 2564 ถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีโทรทัศน์ PPTV

“เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์การจัดการประกวด มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ อย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงวิกฤต แต่เราก็ยังมีความมุ่งมั่นในการจัดการประกวดสาวงามของไทยให้เทียบเท่าระดับโลกเฉกเช่นทุกปี ซึ่งเวที มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2021 จะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทยในการจัดกิจกรรมในรูปแบบ New Normal ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพ พร้อมที่จะเผยแพร่อัตลักษณ์วัฒนธรรมไทย รวมถึงเมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจของประเทศไทยในมุมมองใหม่ให้ปรากฏแก่นานาประเทศทั่วโลก ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศไทยให้กลับคืนมาจากสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 และเราจะเป็นกำลังใจให้ทุกคนก้าวข้ามผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน”

เผยเหตุผลที่ทำไมต้องมีการจัดการประกวด “มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2021”
“เราได้คำตอบในหัวใจมา 3 ข้อ ได้มุ่งเน้นและเชื่อมั่นว่าสิ่งเหล่านี้ต้องเกิดขึ้นเพราะ 1. เราต้องการประกาศให้ทุกคนทั้งในประเทศและต่างประเทศได้เห็นศักยภาพและความสามารถขของคนไทยว่า ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไรก็ตาม เราก็สามารถจัดงานได้ โดยเรามีแพลตฟอร์มของดิจิทัลที่แข็งแกร่งมาก ไม่ว่าเราอยู่ที่ไหน เราจะไม่ห่างไกลจากกันเลย เรายังคงสามารถจัดงาน จัดกิจกรรม ส่งมอบความสุขให้กันได้ และที่สำคัญเราต้องการเปิดศักราชให้ต่างชาติได้เห็นว่าเมื่อสถานการณ์โควิด-19 ได้คลี่คลายลงแล้ว สิ่งต่างๆ ความงดงามที่อยู่ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว น้ำใจของคนไทย เราจะเปิดบ้านเราให้เขากลับมาเที่ยวในเมืองไทยของเรา”

“และ 2. เราจะจัดอีเวนต์ภายใต้มาตรฐานและนโนบายที่กองประกวดวางขึ้นมาอย่างเข้มแข็ง นั่นคือ นโยบาย Covid Controls กองประกวดจะมีโควิดเมเนเจอร์ประจำกอง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก รพ.พญาไท ที่จะส่งบุคคลากรทางการแพทย์ อุปกรณ์ในการตรวจ และจะมีการตั้งการ์ดกันอย่างเข้มแข็ง เพื่อแสดงให้เห็นว่าถ้าเรามีการ์ดที่แข็งแรงและปฏิบัติตามกฎของ Covid Controls อย่างเข้มงวด มันจัดได้ และเราจะไม่ยอมให้เกิดคลัสเตอร์ในกองฯของเราเลย นี่คือสิ่งที่มุ่งมั่นตั้งใจของเรา” 

“ส่วนข้อ 3.เราต้องการตัวแทนขอผู้หญิงไทย ขึ้นมาเป็นกระบอกเสียงให้สังคม ในแง่ของการสร้างสันติสุข การช่วยเหลือเกื้อกูลกันและการทำประโยชน์ให้กับสังคม ซึ่งเราทำมาตลอด ตามที่คุณผู้ชมได้เห็นกัน ทางทีพีเอ็นและนางงามได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือ เราจะผ่านมันไปด้วยกัน และปีนี้จะมีการนำรายได้ส่วนหนึ่งกลับคืนสู่สังคม ได้มาก็แบ่งปันออกไปสังคม เราจะอยู่กันได้ และที่สำคัญผู้หญิงที่จะเป็นตัวแทนประเทศไทย จะเป็นสาวงามที่ตัวแทนสายสะพาย ไทยแลนด์ ที่แข็งแกร่ง”

คีย์เวิร์ดของการประกวดปีนี้คือ Power of Passion
“ปีนี้ภายใต้สถานการณ์ที่สับสน วุ่นวาย และวิกฤตมากๆ ของประเทศ ไม่ว่าจะเรื่องไหนก็ตาม สิ่งหนึ่งที่เราจะต้องส่งกำลังใจให้กัน ธีมปีนี้เราจะต้องสร้างพลังแห่งความมุ่งมั่น พลังแห่งความปรารถนาที่จะต้องฝ่าฝันและรอดไปให้ได้ ธีมในปีนี้จึงเป็น Power of Passion และโกลด์ของเราในปีนี้ เราจะพาสาวงาม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2021 บินลัดไปฟ้าไป เมืองเอลัต ประเทศอิสราเอล เราจะนำ Power of Passion ของสาวงามของเราไปให้คนทั่วโลกได้เห็น”

“แน่นอนว่าเป้าหมายของเรา จะพยายามอย่างเต็มที่ ไม่มีวันท้อถอย ที่จะคว้ามงกุฎที่สาม กลับมาให้คนไทยได้ชื่นใจ เราตามหาผู้หญิงที่มุ่งมั่นและพร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คน เราเชื่อว่าทุกคนมี Passion ในตัวเอง ถึงเวลาแล้วที่จะต้องปลุกมันขึ้นมาและเอามาใช้ สาวงามคนไหนที่ลังเล อย่าเพิ่งถอดใจ ปลุกพลังออกมา”

แม้ปีที่ผ่านมาจะมีดรามาเกี่ยวกับกติกา Golden Tiara แต่ไม่ยกเลิกแน่นอน เพราะเป็นเอกลักษณ์ของเวที
“แน่นอนว่าเราอ่านคำวิจารณ์ และข้อคิดเห็นของแฟนนางงาม ก็มีทั้งอยากให้มี Golden Tiara คงไว้ และไม่อยากให้มีเพราะเหมือนกลุ่มนี้จะโชยแสงอยู่กลุ่มเดียว ไม่จริงนะคะ เราต้องมี Golden Tiara เพราะว่ามันคือหนึ่งในซิกเนเจอร์ของ MUT แต่ในปีนี้จะเปลี่ยนไป คนที่ได้ Golden Tiara จะได้ไปยืน 30 คนสุดท้ายทันที”

“ซึ่งปีนี้เราอาจจะมี Golden Tiara จำนวน 30 คนเข้าไปเลยก็ได้ เพราะจะมีวิธีการในการคัดเลือก ซึ่งกรรมการเกินครึ่งจะต้องลงมติให้เห็นว่าคนนี้เขาควรจะได้ Golden Tiara และเข้าไป 30 คนสุดท้าย รอบคีย์เวิร์ดปีนี้จะมีความขยี้ และการตอบคำถามต้องมี 3 องค์ประกอบด้วยกัน คือ ความมั่นใจในการตอบคำถาม, ต้องมีความ Real U เป็นตัวของตัวเอง และทุกสิ่งที่ตอบหรือพูดออกมาต้องมีพลัง”

ลั่นกลยุทธ์ในการเลือกนางงามในปีนี้ สาวงามต้องมีความแกร่งและฮึกเหิม
“ตามธีมเลยค่ะ Power of Passion ต้องเป็นนางงามที่มีความแกร่ง มีความฮึกเหิม และมีพลังล้นเหลือที่จะต่อสู้กับอุปสรรคทุกสิ่งทุกอย่าง ยังไม่ต้องไปสู้กับใครทั้งสิ้น แต่คุณต้องสู้และเอาชนะหัวใจตัวเองให้ได้ คุณก็คือผู้หญิงคนนั้นค่ะ”

แนะคนที่ได้ตำแหน่ง “มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2021” ต้องมีสติขั้นสุดเพราะมีเวลาเตรียมตัวน้อยมากในการไปประกวด “มิสยูนิเวิร์ส 2021” ปลายปีนี้
“นางงามที่มงฯลงปุ๊บ สติมาทันทีค่ะ ต้องตั้งสติและสมาธิ เพราะว่าบรรดา Expert ของเราเตรียมพร้อมแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำในเรื่องของการตอบคำถาม เรื่องของการวางตัว เรื่องของบุคลิกภาพ จริงๆ แล้วไม่ต้องตกใจค่ะ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามให้ตั้งมั่นไว้นะคะว่า เราเอาศักยภาพในตัวของเรา และ Passion ที่อยู่ในตัวของเรางัดมันออกมาค่ะ แล้วทุกอย่างจะง่ายมาก เป็นธรรมชาติให้มากที่สุดนะคะ บางครั้งความโชคดีอาจจะเกิดขึ้นก็ได้ในภาวะการณ์ที่มันกระชั้นชิดแบบนี้ ความเป็นตัวตนของคุณ ดึงออกมา เราเชื่อมั่นว่าจะไม่เป็นอุปสรรคค่ะ”