͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: นักลงทุนมึน! ดาวโจนส์ฟื้นแรงเกือบ 2 พันจุด  (อ่าน 508 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Joe524

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15802
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
เอเอฟพี/รอยเตอร์ - วอลล์สตรีทพุ่งแรง และน้ำมันปิดบวกในวันศุกร์ (13 มี.ค) หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติสืบเนื่องจากโรคระบาดใหญ่ (โควิด-19) อย่างไรก็ตาม ทองคำดิ่งหนักกว่า 73 ดอลลาร์

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 1,985.00 จุด (9.36 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 23,185.62 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 230.38 จุด (9.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,711.02 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 673.07 จุด (9.35 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,874.88 จุด

เมื่อวันพฤหัสบดี (12 มี.ค.) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบหนัก โดยดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 2,300 จุด หลังจากมาตรการจำกัดการเดินทางใหม่ของทรัมป์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 สร้างความหวาดหวั่นแก่นักลงทุนและสั่นคลอนตลาดโลก

แต่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันศุกร์ (13 มี.ค.) แกว่งตัวในแดนบวกตลอดทั้งวัน ก่อนพุ่งขึ้นแรงในช่วง 30 นาทีสุดท้าย ระหว่างการแถลงข่าวของทรัมป์ที่ทำเนียบขาว

ทรัมป์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ รับมือกับวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เปิดประตูสำหรับจัดสรรเงินช่วยจากรัฐบาลกลางราว 50,000 ล้านดอลลาร์ สู้กับไวรัสมรณะที่เขายอมรับว่ามันอาจส่งผลกระทบต่ออเมริกาสาหัสที่สุดเท่าที่เคยประสบมา

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้แถลงแผนการเพิ่มกำลังผลิตชุดตรวจไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ในความพยายามวบคุมวิกฤตด้านการสาธารณสุข ซึ่งปิดตายเศรษฐกิจในจีนและอิตาลี

นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์เผยด้วยว่ารัฐบาลกลางจะละเว้นการเก็บดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อการศึกษาและสั่งให้กระทรวงพลังงานฉวยโอกาสที่ราคาน้ำมันทรุดตัวอยู่ในระดับต่ำ เข้าซื้อเพื่อเติมเต็มคลังปิโตรเลียมสำรองทางยุทธศาสตร์ของประเทศ

อาร์ท โฮแกน หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์การตลาดของเนชันแนล ซีเคียวริตี ให้ความเห็นว่าถ้อยแถลงของทรัมป์ตรงตามกับที่หลายฝ่ายคาดหวังไว้ โดยเฉพาะแผนงานด้านสาธารณสุขในการตอบสนองต่อวิกฤต ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน

ส่วนราคาน้ำมันในวันศุกร์ (13 มี.ค.) กระเตื้องขึ้นเล็กน้อย หลังทรัมป์แย้มว่าสหรัฐฯ จะฉวยโอกาสราคาน้ำมันระดับต่ำ เติมเต็มคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ของประเทศ ความเคลื่อนไหวที่มีเป้าหมายช่วยเหลือพวกผู้ผลิตพลังงานที่กำลังเผชิญกับปัญหาราคาน้ำมันดำดิ่ง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 23 เซ็นต์ ปิดที่ 31.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 63 เซ็นต์ ปิดที่ 33.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

“จากราคาน้ำมันในตอนนี้ ผมได้สั่งการให้รัฐมนตรีพลังงานเข้าซื้อน้ำมันดิบปริมาณมากในราคาดีมากๆ สำหรับคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ” ทรัมป์กล่าว “เรากำลังจะเติมเต็มมันสู่ระดับสูงสุด”

ถือเป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใดคนหนึ่งเคลื่อนไหวเติมเต็มคลังน้ำมับสำรองทางยุทธศาสตร์ นับตั้งแต่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช จากรีพับลิกันเช่นกัน สั่งเติมคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ ตามหลังเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2001

แม้จะปิดบวกได้เล็กน้อย แต่ราคาน้ำมันยังคงทำสถิติเป็นสัปดาห์ที่ปิดลบหนักหน่วงที่สุดในรอบ 1 ทศวรรษ พังครืนลงสู่ราวๆ 30 ดอลลาร์ จากอุปสงค์ที่อ่อนแอลง ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการทำสงครามราคาระหว่างซาอุดีอาระเบียกับรัสเซีย

ด้านราคาทองคำในวันศุกร์ (13 มี.ค.) ดิ่งลงหนัก 2 วันติด กังวลความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ที่ลดลงเกินคาดหมายในเดือนมีนาคม สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะบั่นทอนใช้จ่ายของประชาชนซึ่งอาจกระทบต่ออุปสงค์โลหะมีค่าตามไปด้วย โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 73.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,516.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์