͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: ลูกวอนช่วยแม่ แอบเป็น ผีน้อย เกาหลี ป่วยหนัก หมดเงินค่ารักษาแล้ว!  (อ่าน 359 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ kaidee20

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 16453
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
นศ.สาว วอนหน่วยงานรัฐหรือผู้ใจบุญช่วยแม่ ที่เป็น"ผีน้อย"ไปทำงานที่เกาหลีใต้ แล้วเกิดป่วยหนัก ต้องเข้ารพ.รักษา หมดไปกว่า 8 ล้านวอน และจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มไปเรื่อย รับหมดหนทางแล้ว อยากให้ช่วยเหลือเพื่อให้แม่กลับมารักษาตัวที่บ้านเกิด


เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 29 เม.ย.63 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านเลขที่ 79 หมู่ที่ 8 ต.ทุ่งงาม อ.เสริมงาม จ.ลำปาง พบ น.ส.ชมพูนุช ผันผ่อน อายุ 23 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดลำปาง พร้อมเปิดเผยว่า ตอนนี้ครอบครัวตนเองเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากแม่คือ นางผุลหทัย แก่นแก้ว อายุ 49 ปี ซึ่งไปทำงานที่ประเทศเกาหลี โดยไปแบบผิดกฎหมาย หรือ ผีน้อย ขณะนี้ได้ป่วยหนักอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ หมดค่าใช้จ่ายไปแล้วเกือบ 8 ล้านวอน และยังไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้

โดยแม่ก่อนไปทำงานที่ประเทศเกาหลีต้องขายบ้านที่จังหวัดลำพูน และนำบ้านที่ลำปางไปจำนอง เพื่อใช้หนี้ที่มีอยู่ เนื่องจากทางครอบครัวมีหนี้สินจำนวนมาก ประกอบกับแม่เป็นเสาหลักของครอบครัว ต้องส่งเสียตัวเองเรียน จึงต้องทำงานทุกอย่าง และสุดท้ายด้วยภาระหนี้สินที่มีอยู่ เลยจำเป็นต้องไปทำงานที่ประเทศเกาหลี ตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค.62 ที่ผ่านมา แต่แม่มีโรคประจำตัวคือ โรคภูมิแพ้ กระทั่งเมื่อต้นเดือน มี.ค.63 แม่เริ่มมีอาการไอเรื้อรัง และจะเดินทางกลับบ้าน แต่ต่อมาสนามบินก็ปิด เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19

ต่อมาต้นเดือนเมษายนอาการแม่เริ่มทรุดลงเรื่อยๆ ต้องไปรักษาตัวที่คลินิกในกรุงโซล ทางบ้านต้องไปกู้เงินกว่าแสนบาทส่งให้แม่ไปรักษาตัวที่คลินิกในเกาหลี แต่สุดท้ายวันที่ 24 เม.ย. แม่มีอาการหนักจนถึงขั้นอาเจียน กินข้าวไม่ได้ และเดินไม่ได้ กระทั่งวันที่ 25 เม.ย.63 อาการของแม่ทรุดหนัก จนต้องเข้ารักษาตัวที่ รพ.แห่งหนึ่งที่กรุงโซล ซึ่งผลการตรวจยืนยันว่าไม่พบเชื้อโควิด-19 และขณะนี้ ยอดค่ารักษาพยาบาลสรุป ณ วันที่ 28 อยู่ที่เกือบ 8 ล้านวอน ซึ่งหากมีการรักษาต่อ ค่าใช้จ่ายก็ต้องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

"ตอนนี้ตนเองหมดหนทางไม่รู้จะทำอย่างไร จึงอยากขอวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือแม่ และหากเป็นไปได้ก็อยากให้แม่กลับมารักษาตัวที่บ้าน เพื่อตนเองจะได้ดูแลแม่ต่อไป" น.ส.ชมพูนุช กล่าว.