วันที่ 5 มี.ค. นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายวีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ ฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจ 2020 โดยสถาบันสร้างไทย พรรคเพื่อไทย แล้วถูกวิพากษ์วิจารณ์ในลักษณะไม่เหมาะสมจากรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐ ว่า แท้จริงแล้วข้อมูลที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เคยบอกว่า คนไทยอ่านหนังสือปีละ 8 บรรทัดนั้น อาจมีส่วนถูก โดยเฉพาะคนที่อยู่รายล้อมรอบตัว พล.อ.ประยุทธ์ เอง การรีบร้อนออกมาตำหนิ นายวีรพงษ์ โดยไม่ดูตาม้าตาเรือ บรรดาลูกศิษย์นายวีรพงษ์ ที่ไปทำงานให้รัฐบาล ควรเรียกคนพวกนี้ไปอบรม ฐานไม่รู้จักเด็ก ไม่รู้จักผู้ใหญ่ อดรนทนไม่ได้กับคำแนะนำที่นายวีรพงษ์ บอกว่า รัฐบาลโง่เขลา เบาปัญญานั้น วันนี้ประชาชนเห็นด้วยว่าจริง ที่น่าอดสูหนักไปกว่านั้น มาถามว่า นายวีรพงษ์ เคยทำประโยชน์อะไรให้บ้านเมือง ถ้าไม่ทราบจริงๆ ก็ลองไปเปิดกูเกิล ตามคำแนะนำของ พล.อ.ประยุทธ์ น่าจะหาคำตอบได้ไม่ยาก นายวีรพงษ์ เป็นอดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย เคยเป็นรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ให้กับรัฐบาลต่างๆ มานับไม่ถ้วน เป็นอดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) ในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่สำคัญนายวีรพงษ์ เป็นครูบาอาจารย์ ลูกศิษย์หลายคนก็ไปช่วยงานรัฐบาลนี้อยู่ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายวีรพงษ์ วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล หลายรัฐบาลก่อนหน้านี้ นายวีรพงษ์ ก็วิพากษ์วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมาแบบนี้ แล้วทำไมรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐ จึงอดรนทนไม่ได้ ส่วนฟังแล้วจะแก้ไข ตามที่ นายวีรพงษ์ แนะนำหรือไม่ก็เป็นสิทธิ์
นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า ดังนั้น ใครกันแน่ที่ลามปาม ใครกันแน่ ที่ โทสาคติ แล้วยังโมหาคติ คือ ลำเอียงเพราะเขลา การที่นายวีรพงษ์ วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจไทยจะถดถอยอีก 5 ปี เพราะหลากหลายปัจจัยที่เข้ามากระทบ รวมถึงรัฐบาลไม่มีความสามารถในการบริหารเศรษฐกิจ และยังเป็นรัฐบาลที่มาจากระบบเผด็จการ ทำให้ไม่เป็นที่น่าเชื่อถือของประชาคมโลก โดยภาพรวมประเทศในขณะนี้ ถือว่าตกอยู่มหาวิกฤติ คือ
วิกฤติเศรษฐกิจ วิกฤติการเมือง และวิกฤติกฎหมาย หรือแม้แต่การที่คนในรัฐบาลบอกว่าการส่งออกไม่มีความสำคัญ สามารถสร้างความต้องการภายในรองรับ
การขยายตัวทางเศรษฐกิจได้ เป็นคำพูดที่โง่เขลา เป็นคำพูดที่ไม่รู้เรื่อง คงจะหลอกทหารได้ แต่หลอกคนที่อยู่ในขบวนการเศรษฐกิจ อยู่ในขบวนการทางด้านการเงินและการผลิตไม่ได้นั้น จริงเท็จอย่างไร ก็ว่ากันไปตามบทวิเคราะห์ทางวิชาการ
“ประชาชนอดคิดไม่ได้ว่า ถ้ารัฐบาลประยุทธ์ ฟังความเห็นของนักวิชาการ ครูบาอาจารย์มากกว่านี้ ประเทศเราคงไม่มาถึงจุดวิกฤติขนาดนี้ ฉลาดแล้วยโส ว่าหนักแล้ว แต่โง่แล้ว โมโห ผู้รู้ที่มาแนะนำ สังคมไทยรับไม่ได้ ถ้ารับคำวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ก็ให้ลาออกไป” นายอนุสรณ์ กล่าว
ข่าวเศรษฐกิจล่าสุดวันนี้