͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: เคยทราบไหม เมตตาเขาดวงใจเราสุขเอง  (อ่าน 31 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Jessicas

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 18534
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
เมตตาเขา เราสุขเอง

ผู้คนจำนวนมากสงสัยว่า หากคนคนหนึ่งทำ เ ล ว กับพวกเราไว้มากมายๆแล้วพวกเราจะไปเมตตา

หรือให้อภัยเขาลงได้อย่ า งไร ที่สงสัยเช่นนี้ เพราะว่าสิ่งที่หลายคนยังไม่รู้ก็คือ

“การยกโทษให้”

ไม่ใช่การกระทำเพื่อสร้างชีวิตที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้ที่เราเกลี ย ด แต่เป็นการปฏิบัติเพื่อ

สร้างชีวิตที่ดีขึ้นให้กับตัวเราเองการคิดร้ า ย คิดลบ แล้วก็คิดสก ป ร ก ต่อคนอื่นจะส่ง


ผลให้ ส ม อ ง ของพวกเราเองเต็มไปด้วยเรื่องร้ า ย แล้วก็ลบซึ่งทำให้พวกเราปราศจากความสุข


ทั้งยังในตอนนี้รวมทั้งอนาคตในเวลาที่พวกเราคิดเกลี ย ด ผู้ใดกันแน่ ผู้ที่ได้รับผลเสียในทันทีคือ

ตัวเราเพราะว่า ส า ร พิ ษ ต่างๆรวมทั้งสารเคมีที่ความตึงเครียดที่เรียกว่า“คอร์ติโซล”

จะหลั่งไหลออกมามากใน ส ม อ ง ของพวกเราเองไม่ใช่ใน ส ม อ ง ของคนที่

พวกเราเกลี ย ด เวลาที่เราคิดยกโทษคนไหนกัน ผู้ที่โชคดีในทันทีคือตัวเราเนื่องจากว่าส ารเคมีแห่ง

ความสุขที่เรียกว่า “เอนดอร์ฟิน” แล้วก็ “เซโรโทนิน” จะหลั่งไหลออกมามากใน

ส ม อ ง ของเราเอง ไม่ใช่ใน ส ม อ ง ของผู้ที่พวกเรายกโทษ

เกลี ย ด เขา เรากลับป่วยง่ายรวมทั้ง ต า ย เร็ว

เมตตาเขา พวกเรากลับสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงแล้วก็แก่ยืน

ไม่ชอบเขา เราทุกข์

เมตตาเขา พวกเราสุขเอง

นี่แหละเป็นความหมายอันลึกซึ้งของ “ธรรม” ที่เรียกว่า

“มโนก ร ร ม” ซึ่งมีความหมายว่า “ก ร ร มที่กระทำด้วยจิตใจ”

แน่นอนว่า เมื่อผู้อื่นรับทราบได้ถึงความต้องการร้ า ย หรือเจตนาอันมืดมนของเราพวกเขา

ก็ย่อมตอบ ส น อง กลับมาด้วยบทเรียนราคาสูง เพื่อที่จะได้อบรมพวกเราให้สาสม


วิบากก ร ร มที่ส่งผลในภายหลังนี้เป็นเพียงของแจกแต่ว่าก ร ร มที่ตามที่เป็นจริงส่งผลตั้งแต่


วินาทีที่เราคิดกล่าวและทำ ชั่ วโดยมันได้เข้าไปเปลี่ยน ส ม อ ง พวกเราให้เป็น

ส ม อ ง ที่ ชั่ ว ร้ ายมีตราบาปและเป็นอันตร า ย ต่อตัวเองไปเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้วเมื่อคนอื่น

คิดไม่ดีกับพวกเรา ส ม อ งของเขาเองจะถูกทำร้ า ย ในทันทีทันใด (เขากระทำตนเขาเอง)

หลวงพ่อเฟื่อง โชติโก สอนว่า “ผู้อื่นเขาดุเรา เขาก็ลืมไปตามใจเราไปเก็บมาคิด

ต่อเอง ราวกับเขาคายเศษอาหารทิ้งไปแล้วเราไปเก็บมากิน แล้วจะว่าใครโ ง่ …”
เมตตา
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13289/