͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: ที่สุดของหนัง Alien กับบทสรุปกว่า 43 ปี  (อ่าน 17 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Jessicas

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 18534
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
Alien บทบาทที่ทำรายได้ให้กับผู้สร้างหนังมามากมายนับตั้งแต่ครั้งแรกที่มันถูกนำเข้าสู่โลกของหนังก็ยาวนานกว่า 43 ปี ถูกเพิ่มในหนังมามายหลายเรื่อง แต่ในสมัยก่อนนั้นหนังแนวAlienเหล่านี้ไม่ได้น่ากลัวหรือสมจริงเท่ากับหนังในสมัยนี้ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นตามยุคสมัย ทั้งเรื่องของความสมจริงที่ถูกเติมแต่งด้วยระบบซีจีจนทำให้เราเชื่อว่ามันคือความจริง ในสมัยก่อนผลงานภาพยนตร์แนวเอเลี่ยนเป็นผลงานจากมันสมองของแดน โอแบนนอน และเพื่อนสนิท โรนัลด์ ชูเซ็ตต์ แต่ถ้าคุณได้อ่านรายละเอียดเบื้องหลังงานสร้างนี้แล้วจะรู้เลยว่าคนที่ทุ่มเทและเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของหนังตัวประหลาดนอกโลกตัวนี้คือ ริดลีย์ สก๊อตต์ นั่นเองเขาเป็นเจ้าของไอเดียที่ทำให้หลาย ๆ ฉากกลายเป็นภาพจดจำบนโลกภาพยนตร์ ต่อมาก็มีผู้กำกับอีกมากมายที่มารับช่วงต่อภาพยนตร์แนวนี้และผู้กำกับเหล่านี้เองก็ล้วนเป็นยอดฝีมือจากแนวหน้าของวงการอย่าง เจมส์ คาเมรอน ที่เพิ่งดังจาก The Terminator (1984) มาสานต่อในหนังเรื่อง Aliens (1986) และยังเป็นภาคเดียวที่ทำเงินสูงยิ่งกว่าภาคต้นฉบับ , เดวิด ฟินเชอร์ ที่ดังมาจากวงการมิวสิควีดีโอ มากำกับ Alien 3 (1992) แต่ผลงานไม่ดีและยังถูกด่าสนั่นว่าห่วย ก่อนจะมากู้ชื่อเสียงคืนให้ตัวเองได้สำเร็จใน Sev7n (1995) และ Alien ก็ถูกปิดตำนานไปยาวนานด้วยฝีมือของ ฌอง ปิแอร์ จูเนต์ ผู้กำกับชาวฝรั่งเศสในหนังเรื่อง Alien: Resurrection (1997) แต่ก็ต้องล้มเหลวโดนเสียงวิจารณ์และรายได้เป็นภาคที่ทำเงินได้น้อยสุดไปโดยปริยาย และยังมีการผลิตภาคต่อมาอีกหลายภาคจนประสมความสำเร็จในที่สุด โดยหนังเรื่องนี้จริง ๆ แล้วเริ่มมาจากแดน โอแบนนอน เค้าเป็นทั้งดาราและนักเขียนบท ผลงานของเขาคือหนังเรื่อง Dark Star (1974) กำกับโดย จอห์น คาร์เพนเตอร์ ยุคที่ยังไม่ดัง ซึ่งแดนรู้สึกไม่โอเคกับหนังเรื่องนี้ เขาเลยมีความมุ่งมั่นว่าหนังเรื่องต่อไปของเขาจะต้องดีมากกว่านี้แดนจึงกลับไปร่างบทเรื่องใหม่เป็นหนังสยองขวัญเขาตั้งชื่อว่า Memory เรื่องราวของยานอวกาศที่ลูกเรือได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือจากดวงดาวรกร้าง ในบทร่างของเขาเขียนไว้ด้วยว่ามีฉากที่ลูกเรือโดนเอเลี่ยนเกาะหน้า แต่แล้วความคิดเขาก็มาถึงจุดหนึ่ง เขียนต่อไม่ถูก เลยปรึกษาเพื่อนสนิทของเขาอย่าง รอน ชูเซ็ตต์ ให้ช่วยคิดบทต่อ ทั้งคู่ก็เลยต้องเอาบทหนังเก่า ๆ เรื่องหนึ่งที่เล่าเรื่องนักบินทิ้งระเบิดต้องต่อสู้กับสัตว์ประหลาดบนเครื่องเอามาดัดแปลงแก้ไขให้เป็นตอนจบของเรื่องนี้ แล้วตั้งชื่อเรื่องว่า StarBeast ต่อมาพวกเขารู้สึกว่าชื่อหนังยังไม่โอเค ก็เลยเปลี่ยนเป็น เอเลี่ยน และมีการทำภาคต่อเรื่อยมานั้นเองและนี้คือเรื่องราวของ Alien หนังที่มีมาอย่างตำนานกว่า 43 ปีตั้งแต่สมัยก่อนจนถึงปัจจุบันแม้เนื้อเรื่องในสมัยก่อนจะดีแค่ไหนก็ยังไม่สามารถสู้ระบบซีจีในปัจจุบันที่สามารถทำหนังออกมาให้สมจริงยิ่งกว่าเดิมจนแทบแยกไม่ออก และถ้ายิ่งได้บท ผู้เล่น ผู้กำกับที่ดีหนังก็ยิ่งสามารถมีโอกาสประสมความสำเร็จยิ่งกว่าอดีตอย่างแน่นอน