͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: ศรีลังกาเสี่ยงเผชิญภาวะอดอยากหิวโหย เหตุเศรษฐกิจยังย่ำแย่ต่อเนื่อง  (อ่าน 33 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Ailie662

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 14271
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
ศรีลังกาเสี่ยงเผชิญภาวะอดอยากหิวโหย เหตุเศรษฐกิจยังย่ำแย่ต่อเนื่อง

นายมาฮินดา ยาปา อเบวาร์ดานา ประธานรัฐสภาศรีลังกาได้ออกมาเตือนว่า ศรีลังกาซึ่งมีประชากรราว 22 ล้านคนเสี่ยงเผชิญกับภาวะอดอยากหิวโหย เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศยังคงย่ำแย่ลงและเริ่มขาดแคลนอาหารมากขึ้น

นายมาฮินดากล่าวว่า นี่ "เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น" โดยคาดว่า "ปัญหาขาดแคลนอาหาร ก๊าซ และไฟฟ้าจะสาหัสกว่าเดิม" และน่าจะถึงขั้นขาดแคลนและอดอยากอย่างรุนแรง

ภาวะเศรษฐกิจของศรีลังกาดูจะยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น โดยเมื่อวานนี้ (6 เม.ย.) ค่าเงินรูปีศรีลังการ่วงอย่างหนักจนกลายเป็นสกุลเงินที่ย่ำแย่ที่สุดในโลก ส่วนราคาพันธบัตรของรัฐบาลศรีลังกาทรุดตัวลงอย่างหนักเช่นกัน ขณะที่ตลาดหุ้นก็ยังย่ำแย่

ศรีลังกากำลังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ โดยสาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากการขาดแคลนเงินตราต่างประเทศที่ใช้ในการชำระค่านำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง จนส่งผลให้ไฟดับทั้งประเทศเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งวันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (1 เม.ย.) รวมทั้งเกิดภาวะขาดแคลนเชื้อเพลิง อาหาร และยารักษาโรค ซึ่งเป็นชนวนให้ความโกรธแค้นของประชาชนปะทุขึ้น และออกมาประท้วงตามท้องถนน

ภาวะขาดแคลนเงินสดของศรีลังกาส่งผลให้รัฐบาลต้องบังคับใช้มาตรการควบคุมเงินทุน (Capital Control), ควบคุมการนำเข้า และวางแผนที่จะเจรจาต่อรองเงื่อนไขกับผู้ถือพันธบัตรเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้รัฐบาลต้องผิดนัดชำระหนี้ นอกจากนี้ ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลศรีลังกายังพยายามที่จะหันไปพึ่งพาเงินกู้จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)

ศรีลังกากำลังขอความช่วยเหลือจาก IMF เพื่อแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ โดยตั้งเป้าหมายลดการขาดดุลการค้าไว้ประมาณ 14% ในปีนี้ รวมทั้งลดยอดขาดดุลการค้าลงสู่ระดับ 7 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ จาก 8.1 พันล้านดอลลาร์เมื่อปีที่ผ่านมา พร้อมกับประเมินว่า ศรีลังกาต้องใช้เงินช่วยเหลือ 5 พันล้านดอลลาร์เพื่อพยุงสถานะการเงินของประเทศ

หาก IMF ตัดสินใจปล่อยเงินกู้ต่อ ก็จะกลายเป็นมาตรการช่วยเหลือทางการเงินรอบที่ 17 ที่ IMF อนุมัติให้กับศรีลังกา ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีเงื่อนไขมากมาย เช่น การปฏิบัติตามเป้าหมายทางการคลังอย่างเข้มงวด