͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: สศก.เตรียมลงพื้นที่หนุนปลูกถั่วเหลืองสร้างความมั่นคงอาหารตามนโยบายรัฐบาล  (อ่าน 27 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ fairya

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12401
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
สศก.เตรียมลงพื้นที่หนุนปลูกถั่วเหลืองสร้างความมั่นคงอาหารตามนโยบายรัฐบาล

นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ในฐานะโฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ สั่งการให้ สศก.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน และเกษตรกร ส่งเสริมการผลิตพืชเศรษฐกิจ เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารโดยเฉพาะถั่วเหลือง ซึ่งเป็นพืชที่ให้ทั้งโปรตีนและน้ำมัน และยังเป็นวัตถุดิบที่สำคัญของอุตสาหกรรมหลายประเภท ทั้งอุตสาหกรรมแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหาร อุตสาหกรรมสกัดน้ำมัน และอุตสาหกรรมอาหารสัตว์

สถานการณ์การผลิตและการตลาดถั่วเหลืองในปี 2565 หรือปีเพาะปลูก 2565/66 (ข้อมูลพยากรณ์ 24 ก.พ.65) พบว่า ประเทศไทยมีเนื้อที่เพาะปลูก 85,226 ไร่ แบ่งเป็น ถั่วเหลือง รุ่น 1 จำนวน 26,208 ไร่ และถั่วเหลือง รุ่น 2 จำนวน 59,018 ไร่ ผลผลิตรวม 23,007 ตัน (ถั่วเหลือง รุ่น 1 จำนวน 7,836 ตัน และถั่วเหลือง รุ่น 2 จำนวน 15,171 ตัน) โดยเนื้อที่เพาะปลูกลดลง 3.40% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งมีจำนวน 88,010 ไร่ และผลผลิตลดลง 2.02% จากที่มีจำนวน 23,482 ตัน เนื่องจากถั่วเหลืองเป็นพืชที่ให้ผลตอบแทนน้อยกว่าพืชอื่น เกษตรกรบางส่วนจึงหันไปปลูกพืชอื่นที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่น ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น

ที่ผ่านมา พื้นที่เพาะปลูกถั่วเหลืองและผลผลิตถั่วเหลืองลดลงอย่างต่อเนื่องทุกปี ทำให้มีปริมาณการผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ภายในประเทศ เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่สูง ขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ที่ดี ต้องใช้แรงงานสูงโดยเฉพาะในการเก็บเกี่ยว ขณะที่ความต้องการใช้ในประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากพิจารณาข้อมูล 5 ปีย้อนหลัง (2560-2564) ความต้องการใช้ถั่วเหลืองในประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 11.92% ต่อปี โดยปี 2565 คาดว่าความต้องการใช้เมล็ดถั่วเหลืองมีปริมาณ 4.02 ล้านตัน มีสัดส่วนการใช้ผลผลิตภายในประเทศ 0.58% และยังต้องนำเข้า 99.42% ของปริมาณความต้องการใช้ทั้งหมด ส่งผลแนวโน้มการนำเข้ายังเพิ่มขึ้น 12.15% ต่อปี ทั้งนี้ ปี 2565 คาดว่าการนำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองมีปริมาณ 4 ล้านตัน เพิ่มขึ้นตามความต้องการใช้ของภาคอุตสาหกรรมภายในประเทศ

ด้านราคาถั่วเหลืองที่เกษตรกรขายได้ (เกรดคละ) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 1.96% ต่อปี โดยในปี 2564 เฉลี่ยกิโลกรัมละ 17.16 บาท สูงขึ้น 2.69% จากกิโลกรัมละ 16.71 บาท ในปี 2563 และปัจจุบัน ราคา ณ ช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน มี.ค.65 กิโลกรัมละ 20.20 บาท ส่วนราคาถั่วเหลืองนำเข้า ณ ท่าเรือเกาะสีชัง มีแนวโน้มสูงขึ้น 3.62% ต่อปี โดยในปี 2564 ราคาถั่วเหลืองนำเข้า ณ ท่าเรือเกาะสีชัง เฉลี่ยกิโลกรัมละ 18.15 บาท สูงขึ้น 45.081% จากกิโลกรัมละ 12.51 บาท ในปี 2563 ซึ่งราคาสูงขึ้นไปในทิศทางเดียวกับราคาในตลาดโลก

"ผลผลิตถั่วเหลืองในประเทศ มีไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งแนวโน้มราคายังมีทิศทางปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่อาจกระทบต่อการนำเข้าพืชอาหารสัตว์ ดังนั้น รมว.เกษตรและสหกรณ์ จึงมีนโยบายเร่งส่งเสริมการผลิตถั่วเหลืองในประเทศ โดยมอบหมายให้ สศก. ร่วมกับทุกภาคส่วนส่งเสริมการผลิตในประเทศ พัฒนาศักยภาพการผลิตและคุณภาพของถั่วเหลือง โดย สศก.จะมีการลงพื้นที่ระหว่างวันที่ 7-8 เมษายน 65 ณ จังหวัดเชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตที่สำคัญของประเทศ เพื่อพูดคุยกับเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลือง เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ รวมทั้งสหกรณ์ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการรับซื้อเมล็ดถั่วเหลือง และผู้ประกอบการที่ใช้เมล็ดถั่วเหลืองเป็นวัตถุดิบ ในการหาแนวทางที่จะเพิ่มผลผลิตถั่วเหลืองในประเทศร่วมกัน" นายฉันทานนท์ กล่าว