ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 15.79 จุด แรงกดดันหลัก
ราคาน้ำมันลงหนัก-จีนล็อกดาวน์สกัดโควิดถ่วง
ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,644.36 จุด ลดลง 15.79 จุด (-0.95%) มูลค่าการซื้อขาย 82,506.52 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,663.32 จุด และลงไประดับต่ำสุดที่ 1,639.90 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 450 หลักทรัพย์ ลดลง 1,481 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 465 หลักทรัพย์
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลากหุ้นไทยวันนี้ภาคบ่ายย่อตัวลงมาต่อเนื่องจากช่วงเช้า เป็นไปตามตลาดหุ้นในภูมิภาคและตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวลดลง ปัจจัยหลักกดดันตลาดหุ้นไทยในวันนี้มาจากแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบร่วงกว่า 6% ลงมาหลุด 100 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
ขณะเดียวกันยังมีความกังวลสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศจีน หลังจากกลับมาล็อกดาวน์เซิ่นเจิ้นและยังล็อกดาวน์เพิ่มอีก 2-3 เมือง ทำให้ตลาดกังวลว่าอาจผลกระทบภาพรวมเศรษฐกิจในเอเชีย และการบริโภคอาจชะลอตัวได้ ซึ่งมีผลต่อดีมานด์สินค้าโภคภัณฑ์ และกิจกรรมการค้าขายทั้งการนำเข้าและส่งออก รวมทั้งค่าระวางเรือ ซึ่งในวันนี้จะเห็นว่ากลุ่มเดินเรือมีแรงเทขายออกมามาก และยังขายกลุ่มธนาคารพาณิชย์ด้วยเช่นกัน
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้คาดว่าแกว่งตัวไซด์เวย์ ติดตามการประชุมประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คืนวันนี้และพรุ่งนี้ ว่าจะกลับมาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีตามที่ตลาดคาดไว้หรือไม่ และแนวโน้มการปรับในครั้งต่อไปจะเป็นอย่างไร รวมถึงท่าทีการลดขนาดงบดุล นอกจากนั้นยังต้องติตดามสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในจีน เพราะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย
ให้แนวต้าน 1,650 จุด และแนวรับ 1,630 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,988.26 ล้านบาท ปิดที่ 158.50 บาท ลดลง 3.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,675.21 ล้านบาท ปิดที่ 145.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,324.24 ล้านบาท ปิดที่ 38.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,044.34 ล้านบาท ปิดที่ 26.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,810.54 ล้านบาท ปิดที่ 10.80 บาท ลดลง 0.40 บาท