โบรกฯมอง CK-STEC โดดเด่นรับเซ็น
รถไฟฟ้าสีม่วงใต้วันนี้หนุนงานในมือ-งานอนาคต
นางสาววิชชุดา ปลั่งมณี ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า วันนี้ บมจ.ช.การช่าง (CK), บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC), บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD), บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ (NWR), บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) จะเซ็นสัญญาโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ มูลค่ารวมกว่า 8.2 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ CK ร่วมกับ STEC คว้า 2 สัญญา รวม 3.5 หมื่นล้านบาท, ITD คว้า 2 สัญญารวม 1.66 หมื่นล้านบาท และจับมือ NWR คว้าอีก 1 สัญญา 1.5 หมื่นล้านบาท ส่วน UNIQ ได้ 1 สัญญา 1.49 หมื่นล้านบาท
มองเป็นบวกต่อหุ้นดังกล่าว โดยเฉพาะ CK และ STEC ซึ่งหลังมีการเซ็นสัญญาฯ จะช่วยหนุนงานในมือ (Backlog) ปรับตัวขึ้น โดย CK คาดสูงขึ้นแตะ 60,000 ล้านบาท จากเดิมที่มี Backlog 15,000 ล้านบาท และ STEC คาดเพิ่มขึ้นจากปี 64 ที่อยู่ที่ 1.1 แสนล้านบาท
ขณะที่ยังเป็นบวกต่อการประมูลงานใหม่ๆ ในอนาคต โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม คาดว่าจะเห็นความชัดเจนของรายละเอียดได้ภายในปีนี้ อาจมีความเป็นไปได้ว่าทั้ง 2 บริษัทจะมีความร่วมมือกันเข้าประมูลงานดังกล่าวต่อเนื่อง และหากมีการเปิดประมูลสายสีส้มตามคาดในปีนี้ก็น่าจะหนุน Backlog ปรับตัวขึ้นไปอีก และนอกเหนือจากนี้ก็ยังมีงานอื่นๆ อย่าง มอเตอร์เวย์, รถไฟทางคู่ เฟส 2 เป็นต้น
ทั้งนี้ แนะ "ซื้อ" CK ที่ราคาเป้าหมาย 27 บาท และ STEC ที่ราคาเป้าหมาย 21.50 บาท จาก Backlog จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 แสนล้านบาท และการประมูลงานใหม่ในอนาคต โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายสีส้มที่จะเข้ามาหนุน Backlog และผลประกอบการในปีนี้ให้เติบโตขึ้น
ด้านบทวิเคราะห์จาก บล.ฟินันเซียไซรัส ระบุว่า กลุ่มรับเหมาฯ มีประเด็นบวกจากการเซ็นสัญญารถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ เตาปูน-ราษฎร์บูรณะจำนวน 6 สัญญา วงเงินรวม 8.2 หมื่นล้านบาทในวันนี้ เป็นบวกโดยตรงกับผู้ชนะอย่าง CK STEC ITD NWR UNIQ นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสต่อเติมงานของกลุ่มรับเหมาฐานรากอย่าง SEAFCO และ PYLON ซึ่งคาดเห็นความชัดเจนในการเริ่มงานหลักช่วง 4Q22 และหนุนการรับรู้รายได้ต่อเนื่องไปอีก 5 ปีข้างหน้าแบบ S-Curve เราเลือก Top Pick เป็น CK (ราคาเป้าหมาย 26 บาท) และ STEC (ราคาเป้าหมาย 17 บาท)
ล่าสุด ราคาหุ้น CK ปรับตัวลง 0.97% หรือลบ 0.20 บาท มาอยู่ที่ 20.50 บาท
STEC ปรับตัวลง 0.74% หรือลบ 0.10 บาท มาอยู่ที่ 13.40 บาท
ITD ปรับตัวลง 0.51% หรือลบ 0.01 บาท มาอยู่ที่ 1.97 บาท
NWR ลดลง 1.19% หรือลบ 0.01 บาท มาอยู่ที่ 0.83 บาท
UNIQ ปรับตัวลง 0.93% หรือลบ 0.05 บาท มาอยู่ที่ 5.30 บาท
