͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้  4, 2022  (อ่าน 15 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Naprapats

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 14930
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้  4, 2022

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน รวมทั้งผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการที่รัสเซียถูกนานาประเทศคว่ำบาตรฐานใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้

-- ขณะนี้การสู้รบระหว่างกองทัพรัสเซียและยูเครนได้ย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 แล้ว และมีรายงานว่าทหารรัสเซียและพลเรือนชาวยูเครนเสียชีวิตหลายร้อยคน ในขณะที่รัสเซียเองก็ถูกนานาประเทศโดดเดี่ยวมากขึ้น

-- กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามเปิดเผยว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่จำนวน 118,790 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดในปี 2563 ส่งผลให้ยอดสะสมผู้ติดเชื้อในประเทศอยู่ที่ 3,885,631 ราย

ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ระดับ 40,547 ราย

-- ซิตี้กรุ๊ปออกรายงานแนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นสหรัฐ เนื่องจากสถิติบ่งชี้ว่าราคาหุ้นมักดีดตัวขึ้น หลังจากร่วงลงจากเหตุการณ์ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์

นายโรเบิร์ต บัคแลนด์ หัวหน้านักวิเคราะห์หุ้นของซิตี้กรุ๊ป ระบุว่า เหตุการณ์ความไม่สงบในยูเครน จะส่งผลกระทบต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องกับรัสเซีย และหุ้นสถาบันการเงินบางแห่งเท่านั้น

"เรายังคงต้องการซื้อหุ้นเมื่อราคาดิ่งลง ขณะที่หุ้นในตลาดโลกมักดีดตัวขึ้น 10-20% หลังจากเกิดวิกฤตการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์หลายครั้งที่ผ่านมา" รายงานระบุ
-- ตลาดหุ้นเอเชียเผชิญการไหลออกของเงินทุนต่างชาติในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมทั้งความเสี่ยงเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก

อย่างไรก็ดี เม็ดเงินจากกองทุนต่างชาติไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ส่งผลให้นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยรวมกว่า 70,000 ล้านบาท สวนทางภูมิภาค

-- จับตาการประชุมผู้นำจีนในวันพรุ่งนี้ (5 มี.ค.) คาดรัฐบาลจีนจะออกมาประกาศเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่ำที่สุดในรอบกว่า 30 ปี โดยนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่า จีนจะตั้งเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจไว้ที่ 5-5.5%

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 18,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 215,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปีนี้ และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 225,000 ราย

ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวเท่ากับตัวเลขเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ

สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 56.5 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 61.0 หลังจากแตะระดับ 59.9 ในเดือนม.ค.

ดัชนีภาคบริการของสหรัฐได้รับผลกระทบจากภาวะชะงักงันของห่วงโซ่อุปทาน เงินเฟ้อ และการขาดแคลนแรงงาน

อย่างไรก็ดี ดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการ

ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 56.5 ในเดือนก.พ. จากระดับ 51.2 ในเดือนม.ค. แต่ปรับตัวลงจากตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 56.7

ดัชนี PMI ได้รับผลบวกจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในตลาด รวมทั้งการพุ่งขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2563

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐพุ่งขึ้น 1.4% ในเดือนม.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.7% หลังจากดีดตัวขึ้น 0.7% ในเดือนธ.ค.

ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าทุนพื้นฐาน ที่ไม่รวมหมวดอาวุธและเครื่องบิน เพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนม.ค. โดยยอดสั่งซื้อดังกล่าวถือเป็นมาตรวัดความเชื่อมั่น และแผนการใช้จ่ายในภาคธุรกิจ

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้ สหรัฐจะมีการรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ. เวลา 20.30 น. ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 415,000 ตำแหน่ง