͸Ժ

ผู้เขียน หัวข้อ: LAMBORGHINI จะมีเครื่องยนต์ต่อไปหลังจากปี 2030  (อ่าน 347 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ B001

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 575
  • การ์ม่า: +0/-0
    • ดูรายละเอียด
LAMBORGHINI จะมีเครื่องยนต์ต่อไปหลังจากปี 2030
เครื่องยนต์สันดาปของ Lamborghini จะมีอายุเกินปี 2030 เป็นข่าวดีในการเริ่มต้นวันใหม่ของคุณ มันยากที่เสียงการทำงานในรอบสูงของมอเตอร์ไฟฟ้าจะเอาชนะเสียงแผดสนั่นของขุมกำลัง Lamborghini V12 ไม่มีระบบอัดอากาศ สำหรับแบรนด์ซุปเปอร์สปอร์ตอย่าง Lamborghini กระทิงบางรุ่นได้รับการออกแบบและปรับแต่งโดยอาศัยปฏิกิริยาทางเสียง แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะจินตนาการถึงการทำงานที่เงียบสนิทของซุปเปอร์คาร์ แบบเดียวกับยานยนต์ไฟฟ้า เครื่องยนต์สันดาปของวัวเถื่อน Lamborghini จะมีอายุยืนยาวต่อไปอีกนิด นั่นก็คือ Lamborghini รุ่นใหม่นับต่อจากนี้จะมีเครื่องยนต์สันดาปภายในไปจนถึงปี 2030 เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงระบบขับเคลื่อน จากเครื่องยนต์ไปเป็นมอเตอร์ไฟฟ้า ยังอยู่ในขั้นตอนของการทดสอบอย่างเข้มข้น โดยคาดกันว่า ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าของกระทิงเปลี่ยว น่าจะเสร็จสมบูรณ์ในอีก 3-4 ปีข้างหน้า   
    mgwin88 ?????        เช่นเดียวกับแบรนด์ซุปเปอร์สปอร์ตเจ้าอื่นๆ ที่ต้องพึ่งพาเสียงท่อระบายท้าย เสียงสูดอากาศของท่อไอดีแบบแปรผันและเสียงระเบิดขณะเปลี่ยนขึ้นสู่เกียร์สูง พลังงานที่เปลี่ยนเป็นเสียงการทำงานของเครื่องยนต์ V8 V10 หรือแม้แต่ V12 สะท้อนผ่านช่วงไล่รอบของเครื่องยนต์ เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขอันน่าเกรงขาม แบรนด์กระทิงเปลี่ยวจาก Sant'Agata Bolognese ยังตั้งใจที่จะผลิตเครื่องยนต์เบนซินต่อไป อาจผลิตต่อเนื่องไปจนหลังปี 2030 Stephan Winkelmann นายใหญ่หรือซีอีโอของ Lamborghini ยืนยันว่า การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อยืดอายุระบบส่งกำลังแบบสันดาปภายใน ให้คงอยู่ในตลาดต่อไป จนกว่าจะกลายเป็นระบบส่งกำลังไฟฟ้า เครื่องยนต์ V10 และ V12 ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์จะมีการควบรวมกับระบบ Hybrid            Winkelmann กล่าวเพิ่มเติมว่า “เมื่อมีมาตรการเข้มงวดเกี่ยวกับการปล่อย Co2 ของรถยนต์ในยุโรป ส่วนผสมที่สำคัญระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน V10 / V12 กับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ในระบบไฮบริดมีความจำเป็นเพื่อเพิ่มความอยู่รอด Lamborghini รอดูว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะนำเสนอรถสปอร์ตที่ยังคงใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน หลังจากปี 2030” Winkelmann เสริมว่า “ความเป็นไปได้อย่างหนึ่ง คือ การทำให้รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปยังคงมีชีวิตโดยใช้เชื้อเพลิงสังเคราะห์ที่มีมลพิษต่ำมาก”         mgwin88 ?????            เชื้อเพลิงสังเคราะห์ที่ปราศจากคาร์บอน จะเป็นทางออกหรือทางรอดสำหรับการปฏิบัติตามกฎระเบียบการปล่อยมลพิษที่เข้มงวด ซึ่งบังคับให้ผู้ผลิตยานยนต์เปลี่ยนไปใช้ระบบส่งกำลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งกลายเป็นทางเลือกสำหรับรถยนต์ที่ผลิตในปริมาณมาก แต่ในความเป็นจริง มอเตอร์ไฟฟ้า กลับเหมาะสมสำหรับรถยนต์สมรรถนะสูงที่ผลิตในจำนวนน้อยมากกว่าจะผลิตในปริมาณมหาศาลอย่างรถยนต์ในอดีต         เราต่างสงสัยกันว่า แล้วทำไมอุตสาหกรรมยานยนต์โลก ถึงไม่นำเชื้อเพลิงสังเคราะห์มาใช้ในการแก้ปัญหาเพื่อลดมลพิษแทนมอเตอร์ไฟฟ้า คำตอบก็คือ ต้นทุนและทรัพยากรพลังงานที่จำเป็น ในการผลิตเชื้อเพลิงสังเคราะห์มลพิษต่ำนั้น ยังคงมีราคาสูงมากเกินไป และไม่สามารถถูกนำไปใช้ในยานยนต์ทั่วไปที่มีราคาถูกได้ Porsche ในฐานะแบรนด์คู่แข่ง มีการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเชื้อเพลิงสังเคราะห์อย่างเข้มข้น หลังจากที่ผู้ผลิตรถสปอร์ตสัญชาติเยอรมัน ได้ลงทุนประมาณ 24 ล้านดอลลาร์ ในโรงงานเชื้อเพลิงเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่บนชายฝั่งของประเทศชิลี มีข่าวลือว่าเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ของ Porsche เพื่อช่วยให้ Porsche 911 GT3 Cup มีอายุยืนยาวต่อไปโดยใช้เชื้อเพลิงสังเคราะห์!! สุดท้าย....เครื่องยนต์สันดาปของ Lamborghini ดูเหมือนว่าจะอยู่รอดปลอดภัย อย่างน้อยๆ ก็อีก 8 ปีละครับ.
mgwin88 ?????