ราล์ฟ รังนิก ผู้จัดการทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด โยนผ้าขาวยอมรับความล้มเหลวแล้วว่าซีซั่นนี้ ผีแดง จะไม่มีแชมป์ติดมือหลังกระเด็นตกรอบ เอฟเอคัพ เนื่องจากถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก เต็มไปด้วยเสือ สิงห์ กระทิง แรด
หลังประสบกับความปราชัยต่อ มิดเดิ้ลสโบรช์ ทีมจาก แชมเปี้ยนชิพ ในเกม เอฟเอคัพ รอบสี่ด้วยการดวลลูกโทษตัดสินเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ล่าสุด รังนิก ได้ยอมรับตามตรงว่าซีซั่นนี้ถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด จะไม่มีโทรฟี่ประดับตู้โชว์อีกปีเนื่องจากฟุต.ถ้วยน็อคเอาท์เป็นรายการที่เขาตั้งความหวังเอาไว้สูงที่สุด
สำหรับศึก แชมเปี้ยนส์ลีก แม้ ผีแดง มีคิวลงเล่นรอบ 16 ทีมกับ แอตเลติโก มาดริด ในเดือนนี้ แต่กุนซือด๊อยทช์มองว่าเป็นงานยากมหันต์ที่เขาจะพาทีมเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศที่ เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ในเดือนพ.ค.เนื่องจากยังเหลือทีมยักษ์ใหญ่ขวางทางอยู่อีกหลายราย
"ใช่ เรายังอยู่ในเส้นทางของ แชมเปี้ยนส์ลีก แต่การคว้าแชมป์เหมือนเรื่องสมมุติ" รังนิก เผยกับสื่อเมื่อ 7 ก.พ.
"ยังมีทีมชั้นยอดเหลืออยู่อีกมากมายในถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ยังมีสโมสรชั้นนำอีก 16 ทีม"
"ทุกคนคงเห็นว่าเราเตรียมความพร้อมในเกมกับ มิดเดิ้ลสโบรช์ อย่างจริงจังแค่ไหน เราต้องการได้แชมป์ แต่เราไม่เด็ดขาดมากพอ และเราทำประตูไม่ได้ หากเป็นเกมปกติ คุณจะนำ 3-0 ในครึ่งแรก"
"แต่มันไม่เกิดขึ้น ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่ใช่ทีมเดียว มีหลายทีมอย่าง เชลซี และ เวสต์แฮม ที่ประสบกับปัญหาในการเล่นกับทีมจากดิวิชั่นที่ต่ำกว่า"
"บางทีโอกาสที่ดีที่สุดต่อการคว้าแชมป์ในซีซั่นนี้ของเราหลุดไปแล้ว ตอนนี้เราต้องมองไปข้างหน้า และทำให้สถานการณ์ต่างๆเป็นไปอย่างดีที่สุด"
อนึ่ง หาก ผีแดง ไม่ได้แชมป์อีกหนในปีนี้ พวกเขาก็จะไร้โทรฟี่นานถึงห้าปีติดต่อกันอันเป็นสถิติที่แย่ที่สุดของสโมสรต่อการร้างถ้วยแชมป์อย่างยาวนานนับตั้งแต่พวกเขาตกชั้นจากดิวิชั่นหนึ่งเดิมในซีซั่น 1973/74 ก่อนเลื่อนชั้นได้สำเร็จในเวลาแค่ปีเดียว