สศค. เผยเศรษฐกิจภูมิภาคธ.ค.ดีขึ้นต่อเนื่อง จากการบริโภค-ลงทุน-ท่องเที่ยว
นายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า
เศรษฐกิจภูมิภาคในเดือนธ.ค. 64 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าในหลายภูมิภาค โดยเฉพาะภาคตะวันตก และภาคตะวันออกที่ปรับตัวดีขึ้น ทั้งจากการบริโภค การลงทุน การท่องเที่ยว และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและอุตสาหกรรม
-ภาคตะวันออก
เศรษฐกิจภาคตะวันออกในเดือนธ.ค. 64 ปรับตัวดีขึ้นโดยเฉพาะจากการบริโภคภาคเอกชน และการท่องเที่ยว รวมทั้งความเชื่อมั่นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ด้านอุปสงค์ พบว่า เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ขยายตัว 63.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่และรายได้เกษตรกร แม้ว่าชะลอตัวลง -14.9% และ -27.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ขยายตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล 2.6% และ 2.0% ตามลำดับ ในขณะที่จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัว 12.2% ต่อปี แต่ชะลอลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล -2.9%
สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ที่แม้ว่าจะชะลอลง -10.4% ต่อปี แต่ขยายตัว 3.9% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ด้านจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ขยายตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 11.5% แต่ชะลอลง -4.9% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล สำหรับเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการชะลอลงทั้งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล
ด้านอุปทาน มีสัญญาณฟื้นตัวจากการท่องเที่ยว โดยจำนวนผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 11.9% ในขณะที่รายได้จากผู้เยี่ยมเยือนจะชะลอตัวลดลง -12.1% ต่อปี แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล 25.4% นอกจากนี้ ในด้านความเชื่อมั่น พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 49.1 และ 107.4 ตามลำดับ จากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 47.8 และ 106.4 ตามลำดับ
-ภาคกลาง
เศรษฐกิจภาคกลางในเดือนธ.ค. 64 ปรับตัวดีขึ้นโดยเฉพาะจากการลงทุนภาคเอกชน และการท่องเที่ยว รวมทั้งความเชื่อมั่นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ด้านอุปสงค์ พบว่า เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ขยายตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล 4.2% และ 18.4% ตามลำดับ ด้านการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัว 0.3% ต่อปี แต่ชะลอลง -21.8% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ในขณะที่จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกร แม้ว่าชะลอตัวลง -1.5% และ -3.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ขยายตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล 4.9% และ 8.1% ตามลำดับ
สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 105.0% ด้วยจำนวนเงินทุน 1.9 พันล้านบาท จากโรงงานผลิตอาหารสำเร็จรูป เช่น เครื่องแกงสำเร็จรูป อาหารกึ่งสำเร็จรูป ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นสำคัญ ในขณะที่จำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ แม้ว่าชะลอตัวลง -8.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ขยายตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล 2.5% ส่วนจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ชะลอลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล
ด้านอุปทาน มีสัญญาณการฟื้นตัวจากการท่องเที่ยว โดยจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนรวมขยายตัว 15.7% และ 3.4% ต่อปี ตามลำดับ นอกจากนี้ ในด้านความเชื่อมั่นพบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมปรับเพิ่มขึ้น มาอยู่ที่ระดับ 45.3 และ 86.5 ตามลำดับ จากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 44.1 และ 85.4 ตามลำดับ
-ภาคตะวันตก
เศรษฐกิจภาคตะวันตกในเดือนธ.ค. 64 ปรับตัวดีขึ้นทั้งจากการบริโภค การลงทุน การท่องเที่ยว และความเชื่อมั่นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ด้านอุปสงค์ พบว่า เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกร ขยายตัว 5.2% 19.4% และ 31.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ ขณะที่จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ ชะลอตัวลง -13.5%
สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 31.2% ด้วยจำนวนเงินทุน 0.8 พันล้านบาท จากโรงงานผลิตภาชนะบรรจุอาหารจากกระดาษทุกชนิด กำลังการผลิต 4.138 ตัน/ปี ในจังหวัดกาญจนบุรี เป็นสำคัญ เช่นเดียวกับจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ขยายตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.9% และ 30.0% ตามลำดับ
ด้านอุปทาน มีสัญญาณการฟื้นตัวจากการท่องเที่ยว โดยจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนรวมขยายตัว 29.0% และ 7.3% ต่อปี ตามลำดับ นอกจากนี้ ในด้านความเชื่อมั่น พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมปรับเพิ่มขึ้น มาอยู่ที่ระดับ 45.3 และ 86.5 ตามลำดับ จากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 44.1 และ 85.4 ตามลำดับ
-กรุงเทพฯ และปริมณฑล
เศรษฐกิจ กทม. และปริมณฑลในเดือนธ.ค. 64 ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากการบริโภคภาคเอกชน และการท่องเที่ยว รวมทั้งความเชื่อมั่นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ด้านอุปสงค์ พบว่า เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ขยายตัว 16.7% 0.4% และ 10.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ ขณะที่รายได้เกษตรกร แม้ว่าชะลอตัวลง -6.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ขยายตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล 8.9%
สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ขยายตัว 14.6% ต่อปี จำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ขยายตัว 5.6% ต่อปี แต่ชะลอลง -2.5% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ในขณะที่เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการชะลอตัวลง
ด้านอุปทาน มีสัญญาณการฟื้นตัวจากการท่องเที่ยว โดยจำนวนผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 12.1% ในขณะที่รายได้จากผู้เยี่ยมเยือนชะลอลง -11.5% ต่อปี แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล 109.2% นอกจากนี้ ในด้านความเชื่อมั่นพบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมปรับเพิ่มขึ้น มาอยู่ที่ระดับ 44.8 และ 86.5 ตามลำดับ จากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 43.5 และ 85.4 ตามลำดับ
-ภาคเหนือ
เศรษฐกิจภาคเหนือในเดือนธ.ค. 64 ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากการลงทุนภาคเอกชน และการท่องเที่ยว รวมทั้งความเชื่อมั่นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ด้านอุปสงค์ พบว่า เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกร ขยายตัว 9.6% และ 4.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ ในขณะที่การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ขยายตัว 6.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ชะลอลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล -9.9% อย่างไรก็ดี จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ยังชะลอลง
สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 62.7% ด้วยจำนวนเงินทุน 2.6 พันล้านบาท จากโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าจากขยะชุมชน ขนาดกำลังการผลิต 6 เมกะวัตต์ ในจังหวัดตาก เป็นสำคัญ สำหรับจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ขยายตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 14.1% ในขณะที่จำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ แม้ว่าชะลอตัวลง -13.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ขยายตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล 7.5%
ด้านอุปทาน มีสัญญาณการฟื้นตัวจากการท่องเที่ยว โดยจำนวนผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.6% ในขณะที่รายได้จากผู้เยี่ยมเยือนชะลอตัวลดลง -14.5% ต่อปี แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล 31.2% นอกจากนี้ ในด้านความเชื่อมั่น พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมปรับเพิ่มขึ้น มาอยู่ที่ระดับ 48.9 และ 64.8 ตามลำดับ จากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 47.7 และ 63.7 ตามลำดับเศรษฐกิจภาคใต้ในเดือนธ.ค. 64 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยว รวมทั้งความเชื่อมั่นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
-ภาคใต้
เศรษฐกิจภาคใต้ในเดือนธ.ค. 64 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยว รวมทั้งความเชื่อมั่นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ด้านอุปสงค์ พบว่า เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล 31.3% และ 21.4% ตามลำดับ ส่วนการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และรายได้เกษตรกร ขยายตัว 14.9% และ 11.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ชะลอลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล -7.4% และ -3.3% ตามลำดับ อย่างไรก็ดี แม้ว่าจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ชะลอตัวลง -5.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ขยายตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล 15.1%
สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ ขยายตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล 12.6% และ 21.4% ตามลำดับ อย่างไรก็ดี เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการแม้ว่าจะชะลอตัวลง -82.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ขยายตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล 219.4% ด้วยจำนวนเงินทุน 0.5 พันล้านบาท จากโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักร เพื่อทำการผลิตชิ้นไม้สับจากไม้ยางพาราและไม้อื่นๆ ที่กำหนด ในจังหวัดสงขลาเป็นสำคัญ สำหรับจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ ขยายตัว 15.2% ต่อปี แต่ชะลอลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล -4.5%
ด้านอุปทาน มีสัญญาณการฟื้นตัวจากการท่องเที่ยว โดยแม้ว่าจำนวนผู้เยี่ยมเยือนจะชะลอตัวลดลง -6.3% ต่อปี แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล 93.5% ขณะที่รายได้จากผู้เยี่ยมเยือนรวมขยายตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล 51.3% และ 67.9% ตามลำดับ นอกจากนี้ ในด้านความเชื่อมั่น พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 42.3 และ 83.0 ตามลำดับ จากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 41.1 และ 82.5 ตามลำดับ